กทม. 6 มี.ค. – ในบ่ายวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติ คำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ขอให้มีคำสั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ กรณีเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีขัดกฎหมายพรรคการเมือง ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
มาตรา 92 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นประเด็นหลักที่ กกต.ใช้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ หลังพบความปรากฏเมื่อพรรคไทยรักษาชาติมีหนังสือแจ้งรายชื่อเพื่อเสนอแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี 1 รายชื่อ ประกอบกับพระราชโอการ ที่ระบุว่าการนำสมาชิกชั้นสูงในพระบรมราชวงศ์มาเกี่ยวข้องกับระบบการเมือง จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อโบราณราชประเพณี ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรมของชาติ ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง กกต.จึงเห็นว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอกประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ขณะที่พรรคไทยรักษาชาติยื่นคำชี้แจง พร้อมบัญชีพยานที่เป็นกรรมการบริหารพรรค 14 คน และพยานที่เป็นบุคคลภายนอก 5 ปาก ประเด็นหลักที่พรรคแก้ข้อกล่าวหา ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ พร้อมความประสงค์และความยินยอมจากผู้ได้รับการเสนอชื่อ การดำเนินการของพรรคจึงไม่น่าเข้าข่ายต่อคำว่าปฏิปักษ์ และเห็นว่า กกต.ข้ามขั้นตอนการพิจารณา เพราะไม่มีการสืบสวนสอบสวนก่อน รวมทั้งการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลกระทบต่อผู้สมัครับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจาและลงมติบ่ายวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.62) หลังองค์คณะได้พิจารณาคำร้องและอภิปรายไปแล้ว 2 ครั้ง เห็นว่าคดีมีพยายามหลักฐานเพียงพอ ไม่ทำการไต่สวน
แนวทางการวินิจฉัยของศาลในกรณีดังกล่าว
แนวทางที่ 1 หากศาลยุบพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งจะส่งให้ผู้สมัครของพรรคไม่มีพรรคที่จะสังกัด ทำให้ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่ง กกต.จะต้องยื่นให้ศาลฎีกาเพิกถอนการสมัครแบบบัญชีรายชื่อ และ ผอ.กต.เขต ต้องยื่นศาลฎีกาเพื่อถอดการสมัครแบบแบ่งเขต บัตรที่ลงคะแนนให้ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยรักษาชาติ จะเป็นบัตรเสีย ส่วนกรรมการบริหารพรรคต้องถูกใบดำตลอดชีวิต คือ การถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรคต้องดำเนินการชำระบัญชีพรรคให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ เมื่อมีคำสั่งยุบพรรคต้องดูว่าจะมีแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างไร จากกลุ่มพรรคเครือข่ายทั้งหลาย
ส่วนแนวทางที่ 2 หากศาลยกคำร้อง พรรคก็จะสามารถหาเสียงเป็นไปตามปกติ เหมือนพรรคอื่นๆ โดยไปลุ้นผลการเลือกตั้งใน ส.ส.ระบบเขต และบัญชีรายชื่อ แต่จะไม่มีการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค. – สำนักข่าวไทย