กรุงเทพฯ 6 มี.ค. – รมว.เกษตรฯ เปิดประชุมวิชาการนานาชาติสัตวแพทย์และการเลี้ยงสัตว์ ครั้งที่ 43 เสนอความก้าวหน้าด้านวิชาการของสัตวแพทย์ไทย พร้อมมอบรางวัลสัตวแพทย์ตัวอย่างปี 61
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สินค้าปศุสัตว์ไทยสร้างมูลค่าจากการส่งออกปีละกว่า 240,000 ล้านบาท อีกทั้งโลกต้องการอาหารโปรตีนจากสัตว์เพิ่มขึ้น ซึ่งวิชาชีพสัตวแพทย์มีความสำคัญในการดูแลและพัฒนาให้ผลผลิตจากปศุสัตว์มีมาตรฐานสู่อาหารปลอดภัยในระดับโลกทั้ง การควบคุมโรคระบาดสัตว์เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียต่อสุขภาพและชีวิตทั้งคนและสัตว์ ภายใต้แนวคิด “One World One Health” ซึ่งการจัดประชุมวิชาการครั้งนี้จะทำให้วิชาชีพสัตวแพทย์ของไทยก้าวหน้าและเป็นผู้นำระดับภูมิภาคอยู่แล้วมีการพัฒนายิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นโอกาสที่สัตวแพทย์ทั่วประเทศสาขาต่าง ๆ จะได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ รวมถึงรับทราบความก้าวหน้าทางวิชาการยิ่งขึ้น โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) และองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) มาเป็นวิทยากร
จากนั้นได้มอบรางวัลสัตวแพทย์ตัวอย่างประจำปี 2561 แก่นายสัตวแพทย์ที่มีผลงานโดดเด่น 5 รายในสายงานวิชาการ ธุรกิจ เผยแพร่วิชาชีพและบริการสังคม สัตวแพทย์รุ่นใหม่ และรางวัลสัตวแพทย์ตัวอย่างกิตติมศักดิ์
ทางด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่ปรึกษาสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การประชุมวิชาการครั้งนี้จะทำให้เกิดการยกระดับความรู้ทางวิชาการและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสัตวแพทย์ไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะมีการนำเสนอผลงานทางวิชาการทั้งด้านปศุสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การควบคุมป้องกันโรคสัตว์ และความปลอดภัยด้านอาหาร
ส่วนนายสัตวแพทย์สมชวน มังคลานนท์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ นายกสมาคมฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “70 ปี สัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ – การเฉลิมฉลองแห่งความสำเร็จ” จากที่ก่อตั้งสมาคมขึ้นมาปี 2491 สามารถประสานความร่วมมือและสนับสนุนเครือข่ายสัตวแพทย์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือและแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกันเช่น การควบคุมโรคระบาดสัตว์ผ่านแดน โรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ้ำในสัตว์ทุกชนิด ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมและสังเกตการณ์มากกว่า 700 คน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพสัตวแพทย์ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น.-สำนักข่าวไทย