รัฐสภา 29 ส.ค.- กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ส่งร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข พร้อมคำชี้แจงเหตุผลและคำปรารภให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว ย้ำ ส.ส.เป็นผู้เสนอและเป็นผู้รับรองชื่อนายกรัฐมนตรี ขณะที่ ส.ว.ร่วมโหวตเท่านั้น
นายนรชิต สิงหเสนี และนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า วันนี้ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.ได้ลงนามร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข ให้สอดคล้องกับคำถามพ่วงประชามติ พร้อมคำชี้แจงเหตุผลของการปรับแก้ และคำปรารภส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้ว โดยแก้ไขเฉพาะมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลเท่านั้น ซึ่งการแก้ไขเป็นไปตามถ้อยคำของผลการออกเสียงประชามติ ให้ ส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี มีผู้รับรองการเสนอชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร และให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาเป็นผู้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่ง กรธ.เห็นว่า ไม่มีถ้อยคำในคำถามพ่วงประชามติที่แสดงเจตนารมณ์ว่าให้ ส.ว.เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ จึงไม่ได้ปรับแก้ถ้อยคำไปจากเดิม ยกเว้นคำชี้แจงเหตุผล ที่ได้แก้ไขให้ชัดเจนมากขึ้นว่า ส.ส.เป็นผู้เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
นายนรชิต กล่าวว่า กรธ.ได้แก้ไขคำปรารภโดยเพิ่มถ้อยคำอธิบาย เรื่องกระบวนการตั้งคำถามพ่วงประชามติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และการปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติ ซึ่ง กรธ.ได้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้ว
สำหรับร่างที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับผลการออกเสียงประชามติ และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มีดังนี้
มาตรา 272 ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาภายหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 268 การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการตามมาตรา 159 เว้นแต่การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 159 วรรคหนึ่ง ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 159 วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา
ในวาระเริ่มแรก เมื่อมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 268 แล้ว หากมีกรณีที่ไม่อาจแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ไม่ว่าด้วยเหตุใด และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เข้าชื่อเสนอต่อประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติยกเว้นเพื่อไม่ต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีจากผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 ในกรณีเช่นนั้น ให้ประธานรัฐสภาจัดให้มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาโดยพลัน และในกรณีที่รัฐสภามีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาให้ยกเว้นได้ ให้ดำเนินการตาม วรรคหนึ่งต่อไป โดยจะเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองแจ้งไว้ตามมาตรา 88 หรือไม่ก็ได้ .-สำนักข่าวไทย