กทม. 5 มี.ค.-กกต. 7 คน บินไปดูงานเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ส่งผลให้สัปดาห์นี้ไม่มีการประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียน ทั้งที่มีหลายเรื่องที่พรรคการเมืองสอบถามความชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ กกต.ไม่มีนัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญต่าง ๆ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ เพราะ กกต. 7 คน ติดภารกิจไปดูงานการใช้สิทธิเลือกตั้งของคนไทยในต่างประเทศ หรือการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงวันที่ 27 กุมภาพันธ์–10 มีนาคม 2562 โดยนายฉัตรไชย จันทร์พรายศรี และนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ไปดูการเลือกตั้งที่สหราชอาณาจักร, นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย และนายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ ไปดูการเลือกตั้งที่สหรัฐอเมริกา, นายปกรณ์ มหรรณพ และนายฐิติเชฎฐ์ นุชนาฎ ไปดูการเลือกตั้งที่เยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์ และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. มีกำหนดไปดูการเลือกตั้งที่สิงค์โปร์ช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยการไปดูงานการเลือกตั้งครั้งนี้ใช้งบราว 12 ล้านบาทเศษ
ทั้งนี้ การไปดูงานการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ในสำนักงาน กกต. เพราะเห็นว่าอยู่ในช่วงใกล้เลือกตั้ง มีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หรือพรรคการเมืองสอบถามความเห็นต่างๆ ในเรื่องวิธีการหาเสียงเข้ามาจำนวนมาก และจำเป็นต้องการความชัดเจนโดยเร็ว เนื่องจากอยู่ช่วงสุดท้ายของการหาเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสียงเรียกร้องขอให้ กกต.วินิจฉัยคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าเข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ มีลักษณะต้องห้ามเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี จากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ เหตุใด กกต.จึงไม่สลับกันเดินทางไปเพื่อให้เหลือ 5 คน เป็นองค์ประชุมสามารถพิจารณาเรื่องสำคัญต่างๆ ได้ เพราะถึงแม้ กกต.จะมีระเบียบ กกต. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แต่เวลาของแต่ละประเทศที่ กกต. เดินทางไป มีความแตกต่างกัน ย่อมไม่สะดวกที่จะมีการประชุม โดยปกติแล้ว กกต.จะนัดประชุมทุกวันจันทร์และอังคารของสัปดาห์ โดยช่วง 2 สัปดาห์ก่อน มีเรื่องที่ กกต.ต้องพิจารณาทั้งการออกระเบียบ ประกาศต่างๆ การตอบข้อหารือของพรรคการเมือง เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ทำให้ กกต.มีการนัดประชุมเพิ่มเติมในวันพุธ และวันศุกร์ด้วย แต่สัปดาห์นี้ กกต.ติดภารกิจไปดูงานการเลือกตั้งของคนไทยในต่างประเทศ ทำให้มีการนัดประชุมอีกครั้ง 11 มีนาคม.-สำนักข่าวไทย