สุราเป็นเหตุ! ตายเพราะกับแกล้ม

สมุทรปราการ 2 มี.ค.- 3 พ่อลูกนั่งกินเหล้าด้วยกัน แต่พอเมาได้ที่ 2 พี่น้องทะเลาะกันเรื่องกับแกล้ม จนน้องชายชกหน้าพี่ชายหงายท้องหัวฟาดหมดสติ จึงพยายามปั๊มหัวใจพี่ชายให้ฟื้น แต่ไม่เป็นผลพี่ชายสิ้นใจต่อหน้าพ่อ จากนั้นเข้าไปนอนในกระต๊อบที่เกิดเหตุเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


เหตุเกิดที่จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อคืนนี้เวลา 20.00 น. ตำรวจ สภ.บางปู พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบร่างของนายวิรัตน์ มามี อายุ 45 ปี ที่นอนเสียชีวิตอยู่ข้างกระต๊อบ ริมถนนสุขุมวิท ตรงข้ามโรงเรียนสวนกุหลาบ ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งว่ามีผู้ถูกทำร้ายจนหมดสติ

สอบสวนชาวบ้านทราบว่า ผู้ตายและนายนาม มามี อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตาย พร้อมด้วยนายวีนัส มามี น้องชายของผู้ตาย นั่งดื่มเหล้ากันตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ กระทั่งมีคนมาพบร่างของนายวิรัตน์นอนหมดสติอยู่ใกล้จุดที่ทั้ง 3 คน นั่งดื่มเหล้ากันอยู่ นอกจากนี้ ยังพบนายนาม เป็นลมอยู่ใกล้ๆ ร่างผู้ตายพูดจาไม่รู้เรื่อง ต่อมาทางเจ้าหน้าที่เชิญตัวนายนาม ไปเค้นสอบที่โรงพักจึงทราบว่า ผู้ก่อเหตุฆ่านายวิรัตน์ ก็คือนายวีนัส น้องชายของผู้ตาย และเป็นลูกของตนทั้งคู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ไปควบคุมตัวนายวีนัส มาทำการสอบสวนที่โรงพัก


โดยนายวีนัส เปิดเผยว่า ตนกับพ่อและผู้ตายไปทำงานรับจ้าง ได้เงินค่าจ้างมา 600 บาท เมื่อเลิกงานจึงซื้อสุราและกับแกล้มมากินกัน เมื่อกินไปได้สักพักผู้ตายได้พูดจาเหน็บแนมตนและพ่อ เรื่องกับแกล้ม ว่าพ่อและตนไม่ค่อยช่วยออกค่ากับแกล้ม ปล่อยให้ผู้ตายไปซื้อไก่มาต้มอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อตนได้ยินที่ผู้ตายว่าพ่อ จึงไม่ค่อยพอใจและโต้เถียงกัน จนบานปลายถึงขั้นท้ากันออกไปชกกันหน้ากระต๊อบ เมื่อออกไปหน้ากระต๊อบ ผู้ตายได้เริ่มชกต่อยตนก่อน ตนจึงชกสวนกลับไปถูกเข้าที่ปลายคางของผู้ตาย จนผู้ตายเสียหลัก ตนจึงตามไปจับผู้ตายเหวี่ยงลงกับพื้น พอดีเป็นจังหวะที่ศีรษะของผู้ตายกระแทกพื้นพอดี จนผู้ตายนอนหมดสติ ตนจึงพยายามเข้าไปปั๊มหัวใจ แต่ผู้ตายก็ยังเงียบอยู่ จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยปั๊มหัวใจพี่ชายต่อ ส่วนตนเองก็กลับเข้าไปนอนพักผ่อนในกระต๊อบ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดมีพ่อแท้ๆ นั่งดูเหตุการณ์อยู่ จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับตนมาโรงพัก เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมกับควบคุมตัวนายวีนัสส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก