จ.สุรินทร์ 1 มี.ค.-สนธิรัตน์รอกกต.แจงกรอบพล.อ.ประยุทธ์หาเสียง มั่นใจพรรคได้ประโยชน์ ไม่กลัวถูกโจมตี ยืนยันไม่ได้ลอกนโยบายจำนำข้าวเพื่อไทย ด้านสุริยะเผยโพลกวาด 7 ที่นั่งสุรินทร์
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสาน น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมผู้สมัครส.ส.เขต 7 เขตของจังหวัดสุรินทร์ร่วมกันสักการะอนุสาวรีย์เจ้าเมืองพระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง(ปุม) ผู้สร้างเมืองสุรินทร์ เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนร่วมกันโบกธงปล่อยขบวนรถหาเสียงของผู้สมัครส.ส.ไปตามจุดต่าง ๆ ในแต่ละเขตของ จ.สุรินทร์
นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) อนุญาตให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ช่วยพรรคพลังประชารัฐหาเสียงได้ว่า ส่วนตัวเพิ่งทราบว่า กกต.อนุญาต ซึ่งทางพรรคต้องรอหนังสือจากกกต.อย่างเป็นทางการว่ารูปแบบที่จะให้พล อ.ประยุทธ์หาเสียงมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และพรรคจะหารือกันเร็ว ๆ นี้เพื่อวางแผนว่าพล.อ.ประยุทธ์จะช่วยพรรคได้อย่างไร โดยเฉพาะช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง
“พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนของประชาชนอยู่แล้ว หากมาช่วยพรรคหาเสียงก็เชื่อว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคเป็นอย่างยิ่ง แต่พรรคจะดำเนินการให้รอบคอบ ตรงความต้องการของประชาชนและหมาะสมทั้งข้อกฎหมายและเหมาะสมทางการเมือง” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
ส่วนที่ว่าหากพล.อ.ประยุทธ์มาช่วยหาเสียงจะทำให้พรรคถูกโจมตีในปัญหาเดิม ๆ หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการโจมตีกันมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าพล.อ.ประยุทธ์จะลงมาช่วยหาเสียงหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ต้องใช้ความอดทนอย่างสูง แต่คิดว่าทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบกติกาและหลักการ
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีขณะนี้หลายพรรคโจมตีการปราศรัยที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่ใช้ถ้อยคำหยาบคายและสร้างความขัดแย้ง แสดงให้เห็นถึงความพ่ายแพ้ ว่า เรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะมีคำพูดแค่ประโยคเดียว ขณะที่พรรคการเมืองอื่น ๆ ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงกว่าตนเอง การปราศัยดังกล่าว เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีเจตนาสร้างความคึกคักให้ประชาชนที่มาฟังปราศรัย ไม่มีเจตนาสร้างความขัดแย้งหรือมีนัยใด ๆ หากฟังโดยภาพรวมก็จะเข้าใจ
“ยืนยันว่าการปราศรัยของผมไม่ได้ใช้วาจาหยาบคายและระมัดระวังการใช้วาจาในการสร้างความขัดแย้ง เพราะวัตถุประสงค์ในการปราศรัยเพื่อชี้แจงต่อประชาชนเกี่ยวกับนโยบาย และเหตุใดต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น ในแต่ละพื้นที่จะมีบริบทและรูปแบบการปราศัยที่แตกต่างกันไป” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ส่วนที่มีข้อวิจารณ์นโยบายเรื่องข้าวของพรรคพลังประชารัฐว่าลอกเลียนแบบนโยบายจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทย เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เป็นการสร้างความเข้าใจผิดครั้งใหญ่มาก ว่าพรรคพลังประชารัฐกลับไปทำนโยบายจำนำข้าว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะนโยบายของพลังประชารัฐคือการชะลอการขาย เพื่อให้ผลผลิตของชาวนาไม่ถูกกดราคา กลไกที่พักใช้ ไม่ได้แทรกแซงราคาตลาด ไม่ใช่การทำราคาเพื่อชี้นำตลาด
“เป็นการนำราคาตลาดย้อนหลัง 3 ปีเป็นตัวตั้ง เพื่อเข้าไปดูโครงสร้างราคา และสินเชื่อชะลอก็เป็นสินเชื่อที่ราคาต่ำกว่าตลาดด้วยซ้ำไป ดังนั้น การที่บอกว่าพรรคพลังประชารัฐไปลอกนโยบายจำนำข้าวถือเป็นการสร้างความสับสนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงขอยืนยันว่าจะผลักดันราคาข้าวให้สูงถึง 18,000 บาท” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าว
ส่วนกรณีนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำภาคอีสานเสนอให้ช่วยค่าปลูกข้าวเพิ่มเติมคือไร่ละ 1,500 บาท จำนวน 20 ไร่ รวม 30,000 บาท จากเดิมที่พรรคออกนโยบาย ช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว 2,000 บาทต่อไร่ จำนวน 20 ไร่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคจะนำประเด็นนี้ไปรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรค และจากนั้นจะนำเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายของพรรค ส่วนจะเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ พรรคจะดูนโยบายว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและทำได้จริงหรือไม่ นี่คือจุดยืนในการนำเสนอนโยบายของพรรค
ด้านนายสุริยะ กล่าวถึงความมั่นใจในการลงพื้นที่หาเสียงในจังหวัดสุรินทร์ว่า ได้ให้บริษัทจัดทำโพลสำรวจความเห็นของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด 7 เขต เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่าพรรคพลังประชารัฐจะได้ส.ส. ทั้งหมด 7 ที่นั่ง ส่วนสาเหตุใดที่ประชาชนชอบพรรคพลังประชารัฐก็ได้คำตอบว่า เรื่องของราคาข้าว เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีรัฐบาลไหนที่ทำราคาได้สูงขนาดนี้คือ 18,000 บาท รวมไปถึงเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ทำให้ชาวจังหวัดสุรินทร์ได้เงินไปใช้สอย ดังนั้นประชาชนจึงมั่นใจว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาลก็จะสามารถสานต่อ และผลักดันเรื่องต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาปากท้องได้สำเร็จ
เมื่อถามย้ำว่าผลโพลของนายสุริยะเชื่อถือได้ใช่หรือไม่ เนื่องจากผลโพลสำนักอื่น ๆ มีผลสำรวจแตกต่างออกไป นายสุริยะ กล่าวว่า อาจเป็นของจังหวัดอื่น แต่ที่จังหวัดสุรินทร์ตนดูมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าได้ 7 ที่นั่ง ประกอบกับที่ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนพบว่าสอดคล้องกับผลโพลที่ได้รับทราบข้อมูลมา
นายสุริยะ กล่าวว่า รูปแบบการปราศรัยและหาเสียงพรรคพลังประชารัฐ จะไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคายหรือสร้างความขัดแย้ง รวมถึงใช้เกมใต้ดินหรือใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคพลังประชารัฐตามที่ถูกกล่าวหาอย่างแน่นอน เพราะยุคสมัยนี้หากเรายังไปใช้อำนาจรัฐจะถูกพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามจับจ้อง ซึ่งจะเกิดความเสียหายกับพรรคพลังประชารัฐ
จากนั้นนายสนธิรัตน์ นายสุริยะและนายอนุชาขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนันต์ ปาลีคุปต์ ผู้สมัคร หมายเลข 8 เขต 1 จ.สุรินทร์ ที่ลานบริษัทไอคิว สี่แยกสลักได อ.เมือง.-สำนักข่าวไทย
