กรุงเทพฯ 26 ก.พ. – กรมชลประทานวอนเกษตรกรลดปลูกข้าวนาปรังทั้งในและนอกเขตชลประทาน หลังแม่น้ำชีลดจนแห้งขอด แต่ยังมีน้ำไว้ใช้สำหรับการอุปโภค บริโภค
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ลำน้ำชีแห้งขอดเป็นประจำเกือบทุกปีในตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย ซึ่งบริเวณโค้งน้ำแห้งขอดจนเห็นสันดอนทรายระยะทางประมาณ 200 ม. โดยเป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน เกษตรกรเพาะปลูกพืชฤดูแล้งปี 2561/2562 ประมาณ 1,000 ไร่ อาศัยสูบน้ำจากแม่น้ำชีด้วยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ทำฝายกระสอบทรายขวางกั้นลำน้ำชี ล่าสุดดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเมือง
สำหรับหน้าแล้งนี้เมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปี 2561 สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ประชุมร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 6 และ 8 เพื่อเตรียมการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำชีและลุ่มน้ำมูลประจำปี 2561/2562 และได้จัดประชุมคณะกรรมการเปิด-ปิด บานระบายของเขื่อนยโสธร และเขื่อนธาตุน้อย เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและเตรียมรับมือภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากน้ำต้นทุนในลำน้ำและเขื่อนขนาดใหญ่มีน้อย โดยให้ความสำคัญในเรื่องการอุปโภค – บริโภค และการรักษาระบบนิเวศเป็นหลัก พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนลดการปลูกข้าวนาปรังทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน พร้อมส่งเสริมให้ปลูกพืชใช้น้ำน้อยทดแทนในฤดูแล้ง
นอกจากนี้ สำนักงานชลประทานที่ 7 ได้ดำเนินการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี และขอสนับสนุนน้ำจากสำนักงานชลประทานที่ 6 ในช่วงฤดูแล้งประจำปี 2561/2562 แต่ยืนยันว่ายังคงมีน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่โรงสูบน้ำดิบของการประปาส่วนภูมิภาค สาขาอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร พบว่า โรงสูบน้ำเป็นแบบแพลอยขึ้นลงได้ตามระดับน้ำ ปัจจุบันระดับน้ำลึกประมาณ 3 – 4 ม. สามารถสูบน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาได้สะดวก สถานการณ์ทั่วไปปกติ
สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์ และเขื่อนลำปาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำคัญของแม่น้ำชีมีเกณฑ์บริหารจัดการน้ำตามหลักวิชาการ และสามารถจัดสรรน้ำจากปริมาณน้ำต้นทุนให้สอดคล้องกับกิจกรรมเพื่อการอุปโภค – บริโภค รักษาระบบนิเวศ และเกษตรกรรมอย่างเพียงพอตลอดลำน้ำชีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ.-สำนักข่าวไทย