มหาสารคาม, อุบลราชธานี 12 ต.ค.- น้ำชีล้นตลิ่งสูงเกินแนวกั้นไหลย้อนเข้าเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เข้าท่วมที่ลุ่ม ต.เกิ้ง และถนน 2367 ทางไป อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ต้องปิดจราจรชั่วคราว เร่งนำบิ๊กแบ็กก่อกำแพงกั้นน้ำ ส่วนที่อุบลราชธานีทุกภาคส่วนร่วมใจช่วยผู้ประสบอุทกภัยต่อเนื่อง
จากปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ที่เกินระดับกักเก็บที่ 132% และปล่อยน้ำออกวันละ 54 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้ลำน้ำชีล้นตลิ่งสูงเกินแนวกระสอบทรายจนพังทลายลง น้ำไหลย้อนเข้าเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เข้าท่วมที่ลุ่มของ ต.เกิ้ง โดยระดับน้ำวันนี้อยู่ที่ 12 เมตร และจากระดับน้ำที่สูงขึ้นเกินกระสอบทรายที่วางกั้นน้ำริมถนนทางหลวง 2367 มหาสารคามไป อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ช่วงบ้านม่วง ทำให้แขวงทางหลวงต้องปิดถนนเส้นนี้ชั่วคราวให้ชลประทานนำเครื่องจักรพร้อมบิ๊กแบ็กมาทำเป็นกำแพงกั้น แต่ไม่มั่นใจว่าจะสามารถต้านมวลน้ำได้มากน้อยแค่ไหน จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูงและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ในตำบลเกิ้ง ประสบน้ำท่วมแล้ว 13 หมู่บ้านจากทั้งหมด 14 หมู่บ้าน พื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย 1,062 ไร่ วัด 7 แห่ง โดยที่หมู่บ้านโขวกุดหวาย หมู่ 7 ถูกตัดขาด ต้องใช้เรือสัญจรไปมาอย่างเดียว
โซเชียลชื่นชมทุกภาคส่วนร่วมใจช่วยผู้ประสบภัยอุบลราชธานี
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี แม้กำลังประสบอุทกภัยรุนแรงถึง 19 อำเภอ กว่า 50,000 ครัวเรือน และรอความช่วยเหลือทั้งอาหาร น้ำดื่ม และยารักษารักษาโรค โดยในช่วงวิกฤติก็จะภาพการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ที่พยายามเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยแม้ยากลำบาก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ ซึ่งหลายคนนำคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่กู้ภัยองค์การบริหารส่านจังหวัดอุบลราชธานีเข้าไปนำผู้ป่วยฉุกเฉินออกจากพื้นที่ประสบภัยมารักษาพยาบาลด้วยความชื่นชม เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูก็โพสต์ภาพความประทับใจในการให้ความร่วมมือแอบชิดขอบทางอำนวยความสะดวกให้รถกู้ภัย ในการเข้าพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยติดอยู่ในบ้านออกมาก่อนที่ระดับน้ำจะท่วมถึงชั้น 2 ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวที่ใช้ในการข้ามฝั่งระหว่าง อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ.-สำนักข่าวไทย