กรุงเทพฯ 26 ก.พ.-ตำรวจประสาน ตม.ทุกด่าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สกัดกั้นสามีโหดฆ่าฝั่งดินภรรยามุสลิมในบ้านพักย่านทุ่งครุ ป้องกันหลบหนีออกนอกประเทศ
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีหญิงรายหนึ่งถูกฆ่าฝังดินในบ้านพักย่านทุ่งครุ ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น ว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รวมรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปแล้วจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งส่งศพไปตรวจพิสูจน์โดยละเอียดที่ สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. เพื่อนำผลการตรวจ อาทิ DNA, ร่องรอยการถูกทำร้าย และที่เกี่ยวข้องมาประกอบคดี
จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นนั้นทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุแล้ว คือ นายนภ โสภณวสุ อายุ 38 ปี (สามีผู้ตาย) ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานและผลการตรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมโยงและยืนยันถึงการกระทำความผิดของผู้ก่อเหตุ จากนั้นจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลในการออกหมายจับ ข้อหา ฆ่าผู้อื่น , ลอบฝัง ซ่อนเร้นศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่แสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม
รอง โฆษก ตร.กล่าวต่อ อีกว่า คดีนี้คืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหา จากนั้นพนักงานสอบสวนจะดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับ อีกทั้งได้แจ้งข้อมูลของผู้ก่อเหตุไปยัง สตม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสกัดกั้นการหลบหนีออกประเทศ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนระดมกำลังออกติดตามตัวจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เร่งจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วเพื่อเยียวยาผลร้ายที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ ทั้งนี้พนักงานสอบสวนต้องดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกับผู้ที่ก่อเหตุเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน.-สำนักข่าวไทย