สัญญาประวัติศาสตร์ “PSC” ฉบันแรกของประเทศ

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – สัญญาประวัติศาสตร์แหล่งปิโตรเลียม “บงกช-เอราวัณ” ภายใต้สัญญา PSC วงเงินลงทุน 1 ล้านล้านบาทลงนามแล้ว ปตท.สผ.คุยต้นทุนลดร้อยละ 20-25 ชาวบ้านค่าไฟฟ้าลดลง 15-20 สต./หน่วย ลุยเปิด PSC อ่าวไทย มิ.ย.นี้


นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการลงนามสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) สำหรับแปลงสำรวจปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณกับบริษัท ปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ร่วมกับบริษัท เอ็มพี จี 2 (ประเทศไทย) จำกัด และ PSC สำหรับแหล่งบงกช กับบริษัทปตท.สผ.เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด วันนี้ (25ก.พ.) ว่า นับเป็นการลงนามครั้งประวัติศาสตร์ของประเทศ เพราะเป็น PSC สัญญาแรกของประเทศ เพราะแหล่งก๊าซฯ ทั้ง 2 แปลงได้ดำเนินการผลิตมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปีภายใต้ระบบสัญญาสัมปทานที่จะสิ้นสุดอายุปี 2565-2566


การประมูลภายใต้ PSC ก่อให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงาน เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจและประเทศ 650,000 ล้านบาทในระยะเวลา 10 ปี (ปี 2565-2574 ) แบ่งเป็นการลดราคาก๊าซฯ  550,000  ล้านบาท  การจัดเก็บภาษีฯ ค่าสัมปทานและอื่น ๆ  อีก 150,000 ล้านบาท  โดยผู้ชนะประมูลเสนอส่วนลดราคาก๊าซธรรมชาติลงมาโดยราคาคงที่อยู่ที่ 116 บาทต่อล้านบีทียูตลอด 10 ปี ประโยชน์ดังกล่าวจะถูกส่งผ่านในรูปของการลดค่าไฟฟ้าลงมา 15-20 สตางค์ต่อหน่วย (หลังปี 2565) จากเดิมราคา 3.6 บาทต่อหน่วย จะเหลือ 3.4 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่า 200,000 ล้านบาท ,ลดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) 0.50-1.0 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) รวมเป็นมูลค่าแสนล้านบาท, ประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมปิโตรเคมีในการมีวัตถุดิบผลิตต่อเนื่องมูลค่า 100,000 ล้านบาท, เพิ่มความมั่นคงด้านก๊าซหุงต้ม หรือแอลพีจี ทำให้มีเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง 1 บาทต่อ กก. คิดเป็นมูลค่า 100,000 ล้านบาท 

นายศิริ กล่าวว่า ได้มอบให้กรมเชื้อเพลิงฯ เตรียมพร้อม เพื่อเปิดเชิญชวนให้เอกชนยื่นประมูลขอสิทธิ์สำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่สำหรับแปลงสำรวจในพื้นที่อ่าวไทยด้วยระบบ PSC ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจะใช้แบบเดียวกับที่เปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณและบงกช โดยเฉพาะการกำหนดให้ผู้เข้าร่วมประมูลต้องเสนอให้หน่วยงานรัฐเข้าไปถือหุ้นสัดส่วนร้อยละ 25 เป็นต้น 

นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กรมฯ จะติดตามใกล้ชิดเพื่อให้การผลิตช่วงรอยต่อที่จะสิ้นสุดสัญญากับรายเก่าไม่กระทบ ขณะเดียวกันต้องให้รายใหม่เข้าไปดำเนินการเพื่อเปลี่ยนผ่านหลังสิ้นสุดสัญญาเพื่อให้การผลิตก๊าซฯ เป็นไปตามกำหนดซึ่งทางผู้ชนะประมูลหลังจากนี้ 45 วันจะต้องส่งแผนการดำเนินงานในปีแรกมายังกรมฯ เพื่อที่จะร่วมดำเนินการใกล้ชิด ซึ่งจะต้องดำเนินการตามข้อกำหนดประมูล คือ หมดสัญญาจะต้องผลิตต่อเนื่องและกำหนดขั้นต่ำการผลิตรวมไว้ 1,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แบ่งเป็นเอราวัณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบัน 1,240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และบงกช 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันผลิต 900 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน


นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. กล่าวว่า เม็ดเงินลงทุน ทั้ง 2 แหล่งคาดว่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายลงทุนประมาณ  1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ที่เหลือเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงาน โดย ปตท.สผ.ไม่ต้องระดมทุนหรือกู้เงินเพิ่ม เพราะจะใช้จากกระแสเงินสด โดยขณะนี้มีกระแสเงินสดประมาณ  400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้ผลการดำเนินการแต่ละปี

“การตั้งราคาก๊าซฯ ต่ำ เพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้น เพราะปริมาณก๊าซที่ผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนผลิตลดลงร้อยละ 20-25 ส่งผลให้กำไรทั้ง 2 โครงการไม่ลดลงแต่อย่างใด ซึ่งจากที่เป็นโครงการที่ผลิตแล้วก็ทำให้มีความเสี่ยงเรื่องการสำรวจไม่พบลดลงไป และที่สำคัญราคาก๊าซแม้คงที่ 116 บาท แต่ราคาขายจริงยังขึ้นกับราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อและอื่น ๆ คาดจะขายได้ประมาณ 4-5 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู” นายพงศธร กล่าว 

นายพงศธร กล่าวว่า ในอนาคตคาดว่าจะเจรจาหาผู้ร่วมทุนเพิ่มเติมทั้งบงกช-เอราวัณ เพื่อให้มีผู้ร่วมทุนราว 3 รายต่อแหล่ง โดยตามข้อกำหนดของกรมเชื้อเพลิงฯ ระบุไว้ว่าจะสามารถหาผู้ร่วมทุนรายใหม่หลังเริ่มผลิตไปแล้ว 1 ปี นั่นก็คือประมาณปี 2566-2567 ขณะเดียวกันบริษัทก็ให้ความสนใจที่จะประมูลการเปิดแข่งขันพีเอสซีอ่าวไทยรอบใหม่ด้วย โดยมีความพร้อมที่จะแข่งขัน และปีนี้ บริษัทจะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) 2 โครงการ คือ โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิ เบอร์ราเคซ และโครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรียวัน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย