“วิษณุ” ระบุ “พล.อ.ประยุทธ์” ดีเบตได้

ทำเนียบฯ  25 ก.พ.- “วิษณุ”  ระบุ “พล.อ.ประยุทธ์” ดีเบตได้  ไม่เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 98 (15 )  แสดงวิสัยทัศน์ได้ แต่ห้ามพูดนโยบาย  ขอรอความชัดเจนจาก กกต.  ป้องกันเรื่องการร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญในภายหลัง  


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่พรรคการเมืองเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมเวทีดีเบต ว่า พรรคพลังประชารัฐได้ถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วว่าสามารถทำได้หรือไม่  ซึ่งเป็นการดี เพราะเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ผู้สมัครของพรรค และไม่ได้เป็นที่ปรึกษาพรรคด้วย อาจมีปัญหาหมิ่นเหม่ เรื่องข้อกฎหมาย  

“หาก กกต.ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเข้าร่วมดีเบตได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก หากมีพรรคการเมืองไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ หรือเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ในเรื่องนี้” นายวิษณุ กล่าว และว่า หาก กกต.ระบุว่า สามารถทำได้  พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะร่วมดีเบตหรือไม่


  นายวิษณุ  กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถดีเบตได้ แต่ต้องระมัดระวังในการใช้คำพูด หากพูดไม่เป็น ก็จะเกิดอันตราย  ต้องเป็นคำพูดที่เกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของตัวเอง  สิ่งที่เคยทำในอดีต ทำอยู่ปัจจุบัน  และหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไรต่อไป แต่ไม่ใช่การพูดนโยบายของพรรค เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่ทั้งผู้สมัครและสมาชิกของพรรค 

อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ  กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยมาปรึกษาเรื่องข้อกฎหมายเกี่ยวกับการดีเบต  และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ควรหรือไม่ควรไปดีเบต  แต่ยอมรับว่า ส่วนตัวและประชาชนต้องการเห็นเช่นกัน 

ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ยื่นร้อง กกต. ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ จากการเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังเป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าช่ายเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่เข้าข่ายการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 98(15 ) ที่ระบุว่า เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานราชการหน่วยงานรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ   คสช. เป็นแค่องค์กรชั่วคราวที่ถูกตั้งขึ้นตามรัฐธรรมนูญ พร้อมทั้ง อ้างประกาศของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มีมติออกมาแล้วว่า คสช.ไม่ต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. เนื่องจากเป็นองค์กรที่ตั้งมาชั่วคราวตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น .- สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย