คลองเตย 25 ก.พ.-อภิสิทธิ์หาเสียงเขตคลองเตย-วัฒนา ชี้รูปแบบดีเบตกกต.ยังไม่หลากหลาย ควรให้เป็นมาตรฐานสากล เรียกร้องกกต.ตรวจสอบซื้อเสียงบางพื้นที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคและคณะลงพื้นที่หาเสียงเขตคลองเตย-วัฒนา โดยชูป้ายหาเสียงและแจกแผ่นพับของพรรคเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งและขอเสียงสนับสนุน นายอนุชา บูรพาชัยศรี ผู้สมัครส.ส.เขตคลองเตย-วัฒนา เบอร์ 11 ตั้งแต่ร้านหมูทอดเจ๊จง บริเวณถนนสายทางรถไฟเก่าปากน้ำ จนถึงสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งเมื่อนายอภิสิทธิ์เดินทางมาถึงได้อุดหนุนอาหารร้านเจ๊จงก่อนจะเดินพบปะประชาชนในเขตคลองเตย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) สามารถดีเบตในเวทีของกกต.ได้ ส่วนเวทีอื่นต้องพิจารณารายละเอียด ว่า ยังไม่ค่อยเข้าใจเหตุผลของกกต.และรูปแบบเวทีดีเบตของกกต. ซึ่งดูแปลก ๆ เพราะเป็นการจับคู่ให้มาแสดงวิสัยทัศน์กัน ซึ่งความจริงแล้วควรจะผลักดันการดีเบตที่เป็นมาตรฐานสากล เพราะหากดูจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยจะส่งเสริมให้คนที่อาสาตัวเข้ามาทำงาน ต้องพร้อมมาพูดคุยพร้อมกันและทำในรูปแบบที่สร้างสรรค์ได้
“การที่นักการเมืองสื่อสารเพียงด้านเดียว จะได้ภาพไม่ครบถ้วน และไม่ได้ตอบคำถามอีกหลายอย่าง หรือไม่ได้เอาข้อมูลมาเปรียบเทียบหักล้างกัน และการยอมรับกระบวนการแบบนี้ควรต้องต่อเนื่องไป ทั้งนี้ เป็นเรื่องดีที่พรรคเพื่อไทยเห็นด้วยเรื่องนี้ เพราะในอดีตทั้งในสมัยนายสมัคร สุนทรเวชและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ค่อยยอมไปดีเบต ขณะที่ทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ไปตอบกระทู้ถามที่สภา” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมตรวจสอบนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง โดยเฉพาะการให้สวัสดิการและการทำโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินจำนวนมาก ว่าสามารถทำได้จริง และมีเงินเพียงพอ ไม่กระทบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งในส่วนของพรรคได้สรุปยอดเงินที่ใช้จ่ายจะนำขึ้นเว็บไซต์ของพรรคประมาณต้นเดือนมีนาคม รวมถึงจะแถลงภาพรวมของเศรษฐกิจเพื่ออธิบายให้เห็นว่านโยบายของพรรคสามารถระดมเงินมาดำเนินการได้ และไม่เป็นภาระของประชาชน ขณะเดียวกันประชาชานมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่าที่พรรคต่าง ๆ เสนอนโยบายวางแผนการหาเงินอย่างไร รวมถึงต้องช่วยกันตรวจสอบนโยบายที่สนับสนุนโครงการเหล่านี้ด้วย
ส่วนกรณีมีรายงานว่าการซื้อเสียงในบางพื้นที่หัวละ 500 บาท นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่กกต.ต้องตรวจสอบ โดยไม่ต้องมีการร้องเรียนว่าอะไรที่ทำผิดกฎหมาย เพราะมีข้อเท็จจริงปรากฏต่อสาธารณะแล้ว โดยควรนำเรื่องเข้าพิจารณาและดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อเป็นการปราม ซึ่งในส่วนของพรรคยังได้รับรายงานว่ามีเก็บบัตรประจำตัวประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยผูกโยงกับการดำเนินการบางโครงการ ซึ่งขณะนี้กำลังรวบรวมข้อเท็จจริงและจะส่งให้กกต.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
