กรุงเทพฯ 24 ก.พ.- “อภิสิทธิ์”ระบุไม่มีเหตุอะไรที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะดีเบตไม่ได้ ท้าแจงเหตุหนุนโครงการจำนำข้าวของพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (24 ก.พ.)นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ตลาดเอี่ยมสมบัติ เขตสวนหลวง ช่วยนายสามารถ มะลูลีม ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เขตสวนหลวงเขต เขตประเวศ หมายเลข 11 หาเสียงกับผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของยามเช้า ชูนโยบาย “พรรคประชาธิปัตย์แก้จน สร้างคน สร้างชาติ” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนรุมขอถ่ายภาพ มอบดอกกุหลาบและพวงมาลัยดาวเรืองตลอดเวลาที่ลงพื้นที่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะหาข้อสรุปในวันพรุ่งนี้(25 ก.พ.)ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ จะสามารถขึ้นเวทีประชันนโยบายและวิสัยทัศน์ หรือ ดีเบต กับพรรคการเมือง ได้หรือไม่ ว่า ยังไม่เห็นเหตุผลว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จะดีเบตไม่ได้ เพราะป้ายหาเสียงก็ขึ้นรูปคู่กับผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องดี กกต.จะทำให้เกิดความชัดเจน เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และปฏิบัติให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามตามหลักการแล้วเมื่ออาสาตัวเข้ามาทำงานให้กับประชาชน ก็ต้องพร้อมที่จะเข้ามาสู่กระบวนการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมประชาธิปไตย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายระบุว่า ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นข้าราชการการเมือง ดังนั้นเมื่อตัดสินใจเล่นการเมืองแล้วก็อยากให้แข่งขันกับคนอื่นอย่างเป็นธรรม ต้องไม่อยู่บนเวทีที่สื่อสารฝ่ายเดียว และเรื่องนี้ถือ เป็นเรื่องของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่มีสิทธิ์จะรู้ว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดความอ่านอย่างไร สามารถให้มีการท้วงติง เปรียบเทียบได้ ไม่ใช่เป็นผลประโยชน์ของผู้สมัครด้วยกัน แต่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน
สำหรับกรณีพรรคพลังประชารัฐเสนอนโยบายข้าวที่มีลักษณะคล้ายกับโครงการรับจำนำข้าวของพรรคเพื่อไทยนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อ่านดูแล้วเห็นว่าเป็นโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งแปลกใจมาก ไม่คิดว่าพรรคพลังประชารัฐจะกล้าเสนอเพราะบริหารบ้านเมืองมาหลายปี และทราบอยู่แล้วว่าความเสียหายจากการจำนำข้าวเป็นอย่างไร แต่กลับกล้าที่จะเสนอนโยบายจำนำข้าวอีก แม้ไม่ใช้คำว่าจำนำ หรือรับซื้อ แต่ก็พูดในทำนองให้กู้ไม่มีดอกเบี้ย แล้วไม่ต้องเอามาคืนก็ได้ จึงไม่ต่างกับการจำนำข้าว ในขณะที่ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯของพรรคเพื่อไทยเอง ยังยอมรับว่าจะไม่ทำอีก ประเด็นอย่างนี้ตนคิดว่าถ้าพล.อ.ประยุทธ์มาร่วมดีเบต ก็ต้องมาสนทนากัน เพราะเคยวิจารณ์หลายเรื่องเกี่ยวกับนโยบายในช่วง- 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่วันนี้กับกลายเป็นว่าพร้อมจะไปผลักดันนโยบายเหล่านั้น
ส่วนจะกลายเป็นลักษณะ “เพื่อไทยคิดพลังประชารัฐทำ” หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ประเทศชาติเสียหาย
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงผลการหยั่งเสียง ส.ส.กทม.ที่หลุดออกมาจากการแชร์กันภายในของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ที่นั่ง 19 เพื่อไทยได้ 11 ที่นั่ง ว่า เป็นธรรมดาของการสำรวจความคิดเห็น ซึ่งมีการทำกันหลายสำนัก และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็ตั้งเป้าว่าครั้งนี้อยากจะทำงานให้พี่น้องคนกรุงเทพฯ แต่ยอมรับว่าบางเขตก็อาจจะยากหน่อยที่แย่งชิงคะแนน เพราะการเลือกตั้งเมื่อครั้งก่อนมีคะแนนน้อยกว่าคู่แข่งพอสมควร สำหรับผู้สมัครหน้าใหม่ที่พรรคส่งลงหลายเขตก็มีความตั้งใจสูง ซึ่งคนทุกรุ่นที่อยู่ในพรรคสามารถผสมผสานทำงานด้วยกันได้.สำนักข่าวไทย