อังกฤษ 22 ก.พ.- ศึกแดงเดือด! วันอาทิตย์นี้ ลุ้นหงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกไปเยือน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์นี้ ไฮไลท์อยู่ที่ศึกแดงเดือด ระหว่าง “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 อดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 13 สมัย ที่จะเปิดบ้านพบกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 2 ที่มี 56 คะแนน เท่ากับจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีคะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียของแมนฯ ซิตี้ดีกว่า คืนวันอาทิตย์เวลา 21.5 น. ซึ่งลิเวอร์พูล มีโอกาสกลับไปทวงบัลลังก์จ่าฝูงได้อีกครั้ง เนื่องจากแมนฯ ซิตี้ ไม่มีคิวเตะพรีเมียร์ลีก ในสัปดาห์นี้ เพราะติดแข่งศึกคาราบาวคัพ รอบชิงชนะเลิศคืนเดียวกัน
ความพร้อมของลูกทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในการคุมทีมทุกรายการ 12 นัด ชนะ 10 เสมอ 1 แพ้ 1 นัด ตั้งแต่มาคุมทีมแทน โชเซ มูรินโญ กุนซือเลือดโปรตุกีส ที่โดนปลดออกหลังทำผลงานไม่ดี บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ในเลกแรก จนโซลชา เข้ามาคุมทีมทำผลงานให้แมนฯ ยู ขยับอันดับ 6 ขึ้นมาอยู่อันดับ 4 ของตารางคะแนน ซึ่งผลงานที่แพ้นัดเดียวคือศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ให้กับเปแอสเช แต่ในพรีเมียร์ลีกยังไม่แพ้ใคร โดยในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โซลชา มาคุมทีม 9 นัด ชนะ 8 เสมอ 1 นัด
โดย โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือปีศาจแดง มีข่าวดีที่จะได้นักเตะตัวรุกอย่าง เจสซี ลินการ์ด กับ อ็องโตนี มาร์กซิยาล กลับมาเป็นตัวเลือกในการลงสนามในเกมนี้ หลังจากทั้ง 2 คนมีอาการบาดเจ็บและกลับมาซ้อมกับทีมได้แล้วเมื่อวันพุธที่ผ่านมา มาผนึกกำลังกับ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ตัวสำคัญที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในยุคของโซลชา รวมถึง มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าที่ยิงไปแล้ว 9 ประตู กับ 6 แอสซิส ในพรีเมียร์ลีกที่ลงสนาม 22 นัด ส่วน ฆวน มาตา มิดฟิลด์ตัวรุก เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงสนามในเกมนี้ ส่วนตัวหลักๆ คนอื่นไม่ว่าจะเป็น ดาบิด เด เคอา ผู้รักษาประตูจอมหนึบพร้อมลงสนามเช่นเดียวกับ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ
ด้านเจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ “หงส์แดง” เกมนี้มีปัญหาในการจัดทัพแนวรับพอสมควร เนื่องจาก โจ โกเมซ,เดยัน ลอฟเรน 2 เซนเตอร์ฮาล์ฟ แต่ทีมจะได้เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กองหลังทีมชาติเนเธอร์แลนด์ กลับมาลงสนามช่วยทีมเกมนี้ได้ หลังจากติดโทษแบนในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับบาเยิร์น มิวนิค ที่เสมอ 0-0 ส่วน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน ยังเจ็บยาวไม่สามารถลงสนามได้ ส่วนคนอื่นๆพร้อมลงสนามทั้ง อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตู รวมถึงดาวยิงสูงสุดพรีเมียร์ลีกอย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงไปแล้ว 17 ประตู จาก 26 นัด จะลงประสนามเกมรุกกับ ซาดิโอ มา โรแบร์โต ฟีร์มิโน โดยในแผงมิดฟิลด์ยังจะใช้งาน จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ลงคุมแดนกลาง ร่วมกับจอร์แดน อันเดอร์สัน กัปตันทีม
ส่วนสถิติแดงเดือดในลีก 53 นัด แมนยู ชนะ 28 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 14 นัด เสมอ 11 นัด เกมล่าสุดที่เจอกันเมื่อปลายปีที่แล้วลิเวอร์พูลเปิดบ้านชนะ แมนยู 3-1
นอกจากเกมคู่นี้แล้วคืนวันอาทิตย์ยังมีโปรแกรมฟุตบอลคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศเวลา 23.30 น. ระหว่าง เชลซี กับ แมนฯซิตี้ อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย