กรุงเทพฯ 22 ก.พ.- “บิ๊กโจ๊ก”เผยตั้งกรอบเวลา 7 วันให้ชุดทำงานตรวจสอบผู้ปลอมแปลงราชกิจจานุเบกษาและปลอมแปลงข่าวลวง หลังพบต้นตอเซิร์ฟเวอร์มาจากโซนยุโรป ก่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขออนุมัติหมายจับ
พลตำรวจโทสุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกล่าวถึง ความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ปลอมแปลงราชกิจจานุเบกษา มีเนื้อหาสั่งปลดผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพนั้น ว่าอยู่ในกรอบการทำงาน 7 วัน ซึ่งทราบตัวผู้กระทำผิดแล้วว่าเป็นใครบ้าง มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งมีต้นตอเซิร์ฟเวอร์อยู่ในกลุ่มประเทศโซนยุโรป
ส่วนการจับกุมผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทยนั้นต้องใช้ระยะเวลา หากเป็นในภูมิภาคอาเซียนจะรวดเร็วกว่านี้ โดยในการทำงานจะต้องประสานกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขออนุมัติออกหมายจับต่อไป โดยในขณะนี้ ได้ประสานไปถึง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า กลุ่มบุคคลที่ปลอมแปลงราชกิจจาฯ เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ทำการปลอมแปลงข่าวลวง กรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พลเอกอภิรักษ์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการกองทัพบก(ผบ.ทบ.) ซึ่งฝ่ายกฎหมาย คสช. ได้แจ้งความไว้แล้วเมื่อวานนี้(21 ก.พ.)ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(บก.ปอท.).-สำนักข่าวไทย