นนทบุรี 22 ก.พ. – พาณิชย์เผยส่งออกเดือนแรกปี 62 ติดลบร้อยละ 5.65 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เตรียมประชุมเอกชนทบทวนเป้าส่งออกไตรมาสแรก 25 ก.พ.นี้
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวว่า ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย โดยเฉพาะตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม 2562 ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีนี้พบว่ามีมูลค่า 18,993.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดลบร้อยละ 5.65 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 โดยสาเหตุสำคัญมาจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่ชัดเจนการตอบโต้ไปมาสงครามการค้าสหรัฐกับจีนที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงอย่างไร สร้างความกดดันให้การค้าการส่งออกทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยส่งออกติดลบอย่างต่อเนื่องและอาจจะลดลงไปถึงทั้งไตรมาสแรกนี้
นอกจากนี้ ปัจจัยลบเพิ่มเติมที่ส่งผลให้การส่งออกไทยติดลบในเดือนมกราคมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในช่วงขาลงส่งผลให้ราคาทองคำในตลาดโลกก็ลดลง ขณะที่กลุ่มสินค้ายานยนต์ของไทยเกิดปัญหาด้านการขนส่งในช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา และประเด็นความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศอื่น ๆ ทำให้ราคาสินค้าในกลุ่มเกษตรกรรมมีราคาสูงกว่าประเทศ โดยเห็นได้ชัดสินค้าข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา ไก่ อาหารทะเล ของไทยมีราคาสูงกว่าคู่แข่ง จึงหันไปซื้อประเทศอื่นและคิดว่าโอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่ายังมีอยู่สูง ซึ่งค่าเงินบาททางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการดูแลอยู่ แต่ขณะเดียวกันผู้ส่งออกจะต้องปรับตัวและยังเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยลบระยะสั้น แต่สิ่งที่กระทบมาก คือ เรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยังไม่รู้จะจบอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ปี 2562 กระทรวงพาณิชย์ยังคงต้องเร่งหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพเข้ามาทดแทน และพัฒนาสินค้าให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร และอุตสาหกรรม ที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น โดยสนับสนุนการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เพื่อยกระดับสินค้าไทย แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์ได้คาดการณ์ไว้ว่าการส่งออกปีนี้น่าจะเป็นบวกไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 แต่ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีหลายปัจจัยที่เข้ามากระทบการส่งออกของไทย ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ขอติดตามสถานการณ์ภาพรวมการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกออกมาก่อนว่าจะเป็นอย่างไร และอาจจะเป็นบวกน้อยกว่าที่คาดไว้ ซึ่งตามประเมินตัวเลขการส่งออก หากเป็นบวกร้อยละ 8 ส่งออกต่อเดือนต้องได้ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากบวกร้อยละ 5 ส่งออกรายเดือนต้อง 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากบวกร้อยละ 3 ส่งออกรายเดือนต้อง 21,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การทบทวนตัวเลขส่งออกวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะมีการประชุมร่วมกับภาคเอกชนที่จะประเมินทิศทางการส่งออกในช่วงไตรมาส 1 และทิศทางรวมถึงปัญหาต่าง ๆ กันต่อไป
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าเร่งเจรจาความตกลงอาเซียนบวก 6 หรืออาเซ็ปให้จบโดยเร็ว เพื่อลดความเสียเปรียบทางภาษีกับประเทศอื่น แต่ยอมรับว่าหากสงครามสหรัฐและจีนจบลงด้วยดี และทิศทางความผันผวนค่าเงินบาทไม่แข็งค่าไปมากโอกาสที่การส่งออกปี 2562 น่าจะเติบโตได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งการประเมินตัวเลขการส่งออกแบบรายตลาดทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างทบทวนภาพรวมอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ในส่วนการนำเข้าเดือนมกราคม 2562 มูลค่า 23,026.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 เนื่องจากการนำเข้าสินค้าทุนอาวุธยุทธปัจจัยทางทหาร เพื่อนำเข้ามาซ้อมรบในช่วงต้นปีของทุกปีที่มีมูลค่าสูงถึง 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เป็นตัวเลขที่มองว่าสูงในช่วงที่มีการซ้อมรบ แต่เมื่อผ่านไปแล้วตัวเลขนี้ก็หมดไปและเป็นปกติและนำเข้าอื่น ๆ ส่งผลให้ตัวเลขดุลการค้าของไทยเดือนมกราคม 2562 ติดลบ 4,032 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากนำตัวเลขอาวุธยุทธปัจจัยซ้อมรบออกไปไทยยังถือว่ายังเกินดุลการค้า .-สำนักข่าวไทย