บสย.เปิดให้พี่วินลงทะเบียนช่วยเหลือทางการเงิน

สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์  21 ก.พ. –  บสย.เปิดให้วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างลงทะเบียน  “บสย.รักพี่วิน”  รองรับซื้อรถใหม่  ซ่อมรถ กู้ฉุกเฉิน ปลดหนี้นอกระบบ ชูกลไกรัฐ “ค้ำประกันสินเชื่อ” นำร่องมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตั้งเป้า 10,000 ราย มั่นใจสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 4,580 ล้านบาท ลดปัญหาหนี้นอกระบบกว่า 100 ล้านบาท 


นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)  เป็นประธานเปิดโครงการ “บสย.รักพี่วิน” เพื่อให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างลงทะเบียนช่วยเหลือทางการเงิน บริเวณสวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ ตั้งแต่เวลา 09.30 เป็นต้นไป เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพอิสระหาเงินทุนซื้อจักรยานยนต์คันใหม่วิ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง  การขอกู้นำไปซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ นำไปประกอบอาชีพเสริม และนำไปชำระหนี้นอกระบบ  โดยมีธนาคารพันธมิตร ทั้งธนาคารออมสิน  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) ธนาคารไทยเครดิต ธนาคารทิสโก้  มาให้บริการเงินกู้ โดยมี บสย.ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ วงเงินสินเชื่อ 50,000 -200,000 บาท สำหรับการกู้ซื้อรถใหม่อนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท กู้ซ่อมแซมรถ กู้ฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ อนุมัติไม่เกิน 50,000 บาท


นายสุรชัย กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมวงเงินช่วยเหลือรายย่อยผ่านหลายช่องทางประมาณ 170,000 ล้านบาท แบ่งการช่วยเหลือผ่านโครงการไมโคร 3 กลุ่มรายย่อยอาชีพอิสระ วงเงิน 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้รองรับวินมอเตอร์ไซค์ครั้งนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดภาระให้พี่วิน บสย.จึงยกเว้นค่าธรรมเนียมปีแรก จากนั้นคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 1.5 ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 16-25 ต่อปี เพราะเป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกัน

“การช่วยลดความเหลื่อมล้ำและลดต้นทุนการประกอบอาชีพ ตลอดจนลดผลกระทบจากการกู้เงินนอกระบบพี่วินมอเตอร์ไซค์ หลังจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำรวจพบว่าผู้ขับขี่รถจักรยายนต์สาธารณะกว่า 200,000 ราย กู้เงินนอกระบบถึงร้อยละ 10 โครงการ บสย.รักพี่วินเป็นโครงการที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน “เติมทุน” ให้ผู้ประกอบการ มั่นใจว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 4,580 ล้านบาท และช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ 100 ล้านบาท จากการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการพี่วิน 10,000 ราย” นายสุรชัย กล่าว 


นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน หลังพบว่าส่วนใหญ่มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีการเดินบัญชี ทำให้ธนาคารไม่สามารถพิจารณาความสามารถการชำระหนี้ได้  โครงการช่วย “เติมทุน” ผ่านธนาคารพันธมิตร  โครงการ บสย.รักพี่วิน ตั้งเป้าสนับสนุนค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ 10,000 ราย เฉลี่ยรายละ 100,000 บาท แบ่งเป็นกู้ซื้อรถใหม่อนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท กู้ซ่อมแซมรถ กู้ฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ อนุมัติวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท

“โครงการนี้จะช่วยให้พี่วินประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการจะคิดดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 28 ต่อปี เช่น กู้เงิน 50,000 บาท ผ่อน 4 ปี ซื้อมอเตอร์ไซค์จากร้านค้าทั่วไปต้องผ่อนเดือนละ 2,500 บาท หากกู้ผ่านโครงการรักพี่วินจะผ่อนเดือนละ 1,500 บาท สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท หรือประหยัดได้มากกว่า 40,000 บาท ในระยะเวลาการผ่อน 4 ปี” ผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าว   

นายรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บสย.ยังเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องในต่างจังหวัด เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพอิสระสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากที่สุด  สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก โดยมีบัตรประจำตัวประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ (บัตรเหลือง) และมีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 5 ล้านบาท  โดย บสย.เปิดช่องทางการสื่อสารหลากหลายสำหรับพี่วิน นอกเหนือจากสำนักงานเขต บสย. 11 แห่งทั่วประเทศ Call Center 0-2890-9999 และเฟสบุ๊ก บสย.ยังเพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่าน Line @tcgloveswin เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น

นายมนต์ชัย เรืองเงิน วินมอเตอร์ไซค์อิสระ 13  บอกว่า อยากให้ บสย.และแบงก์รัฐช่วยเหลือเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ  เพราะวินมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้นอกระบบ หากมีเงินไปปิดหนี้เดิมและมีทุนใหม่จะทำให้หายใจคล่องมากขึ้น และอยากให้ขยายไปลงทะเบียนในต่างจังหวัด 

นายนบพินันท์ บัวงาม วินสตรีวิทยา 2 เปิดเผยว่า ในช่วงเช้ากับช่วงเย็นจะมีงานส่งผู้โดยสาร แต่เมื่อถึงช่วงสายและช่วงบ่ายผู้โดยสารจะน้อย หากมีการติดต่อ อบรมอาชีพเสริม วิ่งส่งอาหาร เอกสาร จัดส่งหรือบริการด้านต่าง ๆ จะเพิ่มรายได้ให้กับวินมอเตอร์ไซค์ และอยากให้ขยายการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกหลายด้าน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]