สวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ 21 ก.พ. – บสย.เปิดให้วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างลงทะเบียน “บสย.รักพี่วิน” รองรับซื้อรถใหม่ ซ่อมรถ กู้ฉุกเฉิน ปลดหนี้นอกระบบ ชูกลไกรัฐ “ค้ำประกันสินเชื่อ” นำร่องมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ตั้งเป้า 10,000 ราย มั่นใจสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 4,580 ล้านบาท ลดปัญหาหนี้นอกระบบกว่า 100 ล้านบาท
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นประธานเปิดโครงการ “บสย.รักพี่วิน” เพื่อให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างลงทะเบียนช่วยเหลือทางการเงิน บริเวณสวนสมเด็จสราญราษฎร์มณีรมย์ ตั้งแต่เวลา 09.30 เป็นต้นไป เพื่อช่วยผู้ประกอบการที่ประกอบอาชีพอิสระหาเงินทุนซื้อจักรยานยนต์คันใหม่วิ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้าง การขอกู้นำไปซ่อมแซมรถจักรยานยนต์ นำไปประกอบอาชีพเสริม และนำไปชำระหนี้นอกระบบ โดยมีธนาคารพันธมิตร ทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีดีแบงก์) ธนาคารไทยเครดิต ธนาคารทิสโก้ มาให้บริการเงินกู้ โดยมี บสย.ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ วงเงินสินเชื่อ 50,000 -200,000 บาท สำหรับการกู้ซื้อรถใหม่อนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท กู้ซ่อมแซมรถ กู้ฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ อนุมัติไม่เกิน 50,000 บาท
นายสุรชัย กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมวงเงินช่วยเหลือรายย่อยผ่านหลายช่องทางประมาณ 170,000 ล้านบาท แบ่งการช่วยเหลือผ่านโครงการไมโคร 3 กลุ่มรายย่อยอาชีพอิสระ วงเงิน 10,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้รองรับวินมอเตอร์ไซค์ครั้งนี้ประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยลดภาระให้พี่วิน บสย.จึงยกเว้นค่าธรรมเนียมปีแรก จากนั้นคิดค่าธรรมเนียมร้อยละ 1.5 ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ โดยธนาคารคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 16-25 ต่อปี เพราะเป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกัน
“การช่วยลดความเหลื่อมล้ำและลดต้นทุนการประกอบอาชีพ ตลอดจนลดผลกระทบจากการกู้เงินนอกระบบพี่วินมอเตอร์ไซค์ หลังจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสำรวจพบว่าผู้ขับขี่รถจักรยายนต์สาธารณะกว่า 200,000 ราย กู้เงินนอกระบบถึงร้อยละ 10 โครงการ บสย.รักพี่วินเป็นโครงการที่สนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการเงิน “เติมทุน” ให้ผู้ประกอบการ มั่นใจว่าจะสร้างเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 4,580 ล้านบาท และช่วยลดปัญหาหนี้นอกระบบได้ 100 ล้านบาท จากการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการพี่วิน 10,000 ราย” นายสุรชัย กล่าว
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย. เปิดเผยว่า เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงิน หลังพบว่าส่วนใหญ่มีรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีการเดินบัญชี ทำให้ธนาคารไม่สามารถพิจารณาความสามารถการชำระหนี้ได้ โครงการช่วย “เติมทุน” ผ่านธนาคารพันธมิตร โครงการ บสย.รักพี่วิน ตั้งเป้าสนับสนุนค้ำประกันสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อ 10,000 ราย เฉลี่ยรายละ 100,000 บาท แบ่งเป็นกู้ซื้อรถใหม่อนุมัติไม่เกิน 100,000 บาท กู้ซ่อมแซมรถ กู้ฉุกเฉิน แก้หนี้นอกระบบ อนุมัติวงเงินไม่เกิน 50,000 บาท
“โครงการนี้จะช่วยให้พี่วินประหยัดค่าใช้จ่าย เนื่องจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการจะคิดดอกเบี้ยไม่เกิน ร้อยละ 28 ต่อปี เช่น กู้เงิน 50,000 บาท ผ่อน 4 ปี ซื้อมอเตอร์ไซค์จากร้านค้าทั่วไปต้องผ่อนเดือนละ 2,500 บาท หากกู้ผ่านโครงการรักพี่วินจะผ่อนเดือนละ 1,500 บาท สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายเดือนละ 1,000 บาท หรือประหยัดได้มากกว่า 40,000 บาท ในระยะเวลาการผ่อน 4 ปี” ผู้จัดการทั่วไป บสย. กล่าว
นายรักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บสย.ยังเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ต่อเนื่องในต่างจังหวัด เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการกลุ่มอาชีพอิสระสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบมากที่สุด สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก โดยมีบัตรประจำตัวประกอบอาชีพรถจักรยานยนต์สาธารณะ (บัตรเหลือง) และมีสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 5 ล้านบาท โดย บสย.เปิดช่องทางการสื่อสารหลากหลายสำหรับพี่วิน นอกเหนือจากสำนักงานเขต บสย. 11 แห่งทั่วประเทศ Call Center 0-2890-9999 และเฟสบุ๊ก บสย.ยังเพิ่มช่องทางการสื่อสารผ่าน Line @tcgloveswin เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น
นายมนต์ชัย เรืองเงิน วินมอเตอร์ไซค์อิสระ 13 บอกว่า อยากให้ บสย.และแบงก์รัฐช่วยเหลือเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพราะวินมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้นอกระบบ หากมีเงินไปปิดหนี้เดิมและมีทุนใหม่จะทำให้หายใจคล่องมากขึ้น และอยากให้ขยายไปลงทะเบียนในต่างจังหวัด
นายนบพินันท์ บัวงาม วินสตรีวิทยา 2 เปิดเผยว่า ในช่วงเช้ากับช่วงเย็นจะมีงานส่งผู้โดยสาร แต่เมื่อถึงช่วงสายและช่วงบ่ายผู้โดยสารจะน้อย หากมีการติดต่อ อบรมอาชีพเสริม วิ่งส่งอาหาร เอกสาร จัดส่งหรือบริการด้านต่าง ๆ จะเพิ่มรายได้ให้กับวินมอเตอร์ไซค์ และอยากให้ขยายการช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกหลายด้าน เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย.-สำนักข่าวไทย