เผยผลศึกษายานยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท/ปี

กรุงเทพฯ  31 ส.ค. –  สนพ.เดินหน้าตามกรอบแผนบูรณาการพลังงานของประเทศ มุ่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2579 ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงปีละ 1.7 หมื่นล้านบาท


นายทวารัฐ สูตะบุตร  ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนารับฟังความคิดเห็นผลการศึกษา “โครงการศึกษาและพัฒนาแนวทางในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า” ว่า ปัจจุบันรัฐบาลให้ความสำคัญและสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและตามกรอบแผนบูรณาการพลังงานของประเทศ ส่วนการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศมีเป้าหมายไว้ที่ 1.2 ล้านคัน ภายในปี 2579

ทั้งนี้  เพื่อให้การขับเคลื่อนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าไปตามแผนงาน  สนพ. โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้ร่วมกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินโครงการศึกษาและพัฒนาแนวทางในการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อประเมินการประหยัดพลังงานจากการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และการวิเคราะห์ผลกระทบต่อการใช้พลังงานในระดับมหภาค รวมถึงประเมินผลจากการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าด้านเศรษฐศาสตร์และด้านพลังงานในภาคขนส่ง ซึ่งจากผลการศึกษาโครงการฯ พบว่าหากสามารถส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศให้ได้ตามแผนงานของกระทรวงพลังงานจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ และจะยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โดยจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัวต่อเนื่องและประเทศสามารถประหยัดเชื้อเพลิงเพื่อการขนส่งลงได้ในช่วงปี 2575-2579 เฉลี่ยถึงปีละ 17,000  ล้านบาท


นายภูรี สิรสุนทร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้แรงผลักดันจากทุกภาคส่วนและการส่งเสริมจากภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนในการเป็นเจ้าของยานยนต์ไฟฟ้าและเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้ การส่งเสริมพัฒนาเทคโนโลยี การเพิ่มปริมาณและความหลากหลายในการผลิตภายในประเทศ โดยอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชน และด้านโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จและพัฒนาระบบการจ่ายไฟฟ้าเพื่อให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตมีความมั่นใจในการหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งผลการศึกษาของโครงการฯ พบว่าหากรัฐบาลสามารถส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้ตามแผนงานภายในปี 2579 และภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยสามารถผลิตยานยนต์ไฟฟ้าใช้เองภายในประเทศได้จะช่วยทดแทนและลดการนำเข้าชิ้นส่วนยานยนต์ไฟฟ้าได้แทบทั้งหมด หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างแต่อย่างใด นอกจากนี้ การส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำมัน ปรับตัวลดลง ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป

จากแบบจำลองทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อประเมินผลประหยัดพลังงานจากการเปลี่ยนไปใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตตามแผนขับเคลื่อนฯ พบว่า ภายในปี 2558-2579 การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ความต้องการการใช้พลังงานไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 608 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี แต่สามารถลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลลง 334 ล้านลิตรต่อปี หรือคิดเป็นมูลค่า 5,417 ล้านบาทต่อปี หากเปรียบเทียบผลประหยัดเป็นหน่วยไฟฟ้าแล้ว พบว่าจะสามารถประหยัดพลังงานได้เฉลี่ย 2,323 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี

“ขณะนี้รัฐบาลได้วางแผนและมาตรการในทุกมิติเพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อภาคอุตสาหกรรมและภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายทวารัฐ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร