กาญจนบุรี 15 ก.พ.-แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำทีมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จ.กาญจนบุรี ชูนโยบายประกันราคาข้าว 10,000-15,000 บาท ยืนยันโยบายมารดาประชารัฐไม่ได้เลียนแบบพรรคใด
พรรคพลังประชารัฐ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค เป็นหัวใหญ่นำปราศัย มีแกนนำพรรค อาทิ นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรค นายอิทธิพล คุณปลื้ม กรรมการบริหารพรรค และนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐร่วมด้วย การปราศรัยครั้งนี้ยังได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.5 เขต จ.กาญจนบุรี โดยมีประชาชนสนใจร่วมฟังการปราศรัยประมาณ 20,000 คน
เนื้อหาส่วนใหญ่บนเวทีมีการเสนอนโยบายเด่นๆ เช่น เพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงและเพิ่มประโยชน์ของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นโยบายด้านราคาข้าว โดยข้าวเจ้าได้เกินตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิ ตันละมากกว่า 15,000 บาท พร้อมค่าปลูกและเก็บเกี่ยว 2,000 บาท พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน รวมถึงนโยบายมารดาประชารัฐ โคบาลประชารัฐ เป็นต้น
นายอนุชา นาคาสัย ขึ้นเวทีประกาศว่าส่วนตัวเป็น ส.ส.ครั้งแรกปี 2544 สังกัดพรรคเพื่อไทย มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ กระทั่งมีวิกฤตการณ์การเมืองเกิดขึ้นในปี 2549 เพราะผู้มีอำนาจกระการไม่สมควร จนนำไปสู่การชุมนุมการประท้วง จนต้องยุบพรรคเพื่อไทยและตัดสิทธิทางการเมืองของการบริหารพรรค รวมตนอยู่ด้วย จากนั้นเมื่อมีเลือกตั้งใหม่ ตนไม่ยอมให้ภริยาลง ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ให้อยู่พรรคเล็กๆแทน เพราะเราไม่ต้องการเห็นประเทศไทย ถูกนำไปเป็นเครื่องมือของใครอีก เราไม่อยากเห็นลูกหลานคนไทย ต้องมาฆ่าฟันกัน เสียเลือดเสียเนื้อ เหมือนอย่างที่เคยเกิดขึ้นมา
นายสนธิรัตน์ กล่าวถึงกรณีนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่านโยบายมารดาประชารัฐของพรรคพลังประชารัฐ ลอกเลียนแบบนโยบายเกิดปั๊บรับแสนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่านโยบายมารดาประชารัฐ เป็นการลงทุนในเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญของชาติ จึงให้ความสำคัญตั้งแต่พัฒนาการตั้งแต่สตรีตั้งท้อง คลอดออกมาและเลี้ยงดูจนถึง 6 ขวบ ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญที่สุดของพัฒนาการในวัยเด็ก จึงไม่ได้ลอกเลียนแบบนโยบายจากพรรคการเมืองใดแน่นอน
สำหรับ นายสนธิรัตน์ ได้ขึ้นเวลาทีปราศรัยเป็นคนสุดท้าย โดยมีมารดาและคนในครอบครัวไปร่วมฟังการปราศรัยในครั้งนี้ด้วย ได้พูดถึงตนเองเป็นคนเมืองกาญจน์ ครอบครัวประกอบการซ่อมรถจักรยานในตลอดสดอำเภอท่าม่วง ตนเองได้ตั้งปณิธานว่าจะต้องเป็นผู้ดูแลครอบครัวให้ได้ในอนาคต จึงได้ตั้งใจเล่าเรียนจนจบ และได้มาเป็นรัฐมนตรี ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนมาตลอด โดยเฉพาะช่วงเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ทำโครงการธงฟ้า และอื่นๆ หลายโครงการ และหากประชาชน ให้ความไว้ว่าใจให้ตนเองเข้ามาบริหารงานสานงานต่อ ตนเองจะพัฒนาให้เส้นทางบ้านพุน้ำร้อน ไปสู่เมืองทวาย เพื่อให้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเมืองทองให้ได้ ขอฝากประชาชนให้เลือกผู้สมัครทั้ง 5 เขต จากนั้นได้เชิญผู้สมัคร รวมถึงทีมงานขึ้นปรากฏตัวบนเวที ด้วยการเปิดเพลงส่งประชาชนกลับบ้านด้วยบรรยากาศที่คึกคัก โดยการปราศรัยได้จบลงในเวลา 20.00 น.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย