ไทยลีก 1 เตรียมเปิดฤดูกาล ระบบ var รอฟีฟ่าอนุมัติ

กทม. 15 ก.พ. – ไทยลีก 1 เตรียมเปิดฤดูกาลศุกร์หน้า แต่ระบบ VAR ยังไม่สมบูรณ์ รอฟีฟ่าอนุมัติ


อีก 1 สัปดาห์นับจากวันนี้ ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก หรือ ลีก 1 จะเปิดฤดูกาลอย่างเป็นทางการ เราไปดูความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในปีนี้ของไทยลีกกัน



เริ่มกันที่จำนวนทีมที่ลดลงไปแน่นอนว่า ปีก่อน มี 18 ทีม พอมาปีนี้ มีตกชั้นไป 5 ทีม ทำให้เหลือเพียงแค่ 16 ทีม ก็เพื่อไม่ให้นักเตะเหนื่อยล้าจนเกินไป

ทั้งนักเตะที่เล่นในเกมลีก รวมถึงทีมชาติ แน่นอนทีมชนะเลิศ ก็จะเป็นทีมอันดับ 1 ส่วนทีมอันดับ 14-15-16 จะต้องตกชั้นไปเล่นในไทยลีก 2 ในฤดูกาล 2020 ต่อไป ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม คือ จำนวนโควต้านักเตะต่างชาติ เมื่อปี 2018 นักเตะต่างชาติสามารถขึ้นทะเบียนได้ทีมละเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น ส่วนวันลงสนามใช้โควต้า 3+1 คือ นักเตะต่างชาติๆ ใดก็ได้ 3 คน บวกโควต้าพิเศษอีก 1 คน กรณีที่อีก 1 คนเป็นผู้เล่นชาวเอเชีย

แต่ปีนี้จะมีนักเตะต่างชาติในแต่ละทีมเพิ่มขึ้นเยอะมาก เพราะระเบียบใหม่กำหนดว่า แต่ะละทีมสามารถขึ้นทะเบียนนักเตะต่างชาติทั่วไปได้ 3 คน ชาติที่อยู่ในเอเอฟซี หรือ เอเชีย 1 คน แต่สามารถลงทะเบียนนักเตะต่างชาติที่เป็นนักเตะอาเซียน (ไม่รวมติมอร์) ได้ไม่จำกัด กี่คนก็ได้ ที่เคยเป็นกระแสดราม่าไม่เห็นด้วยจากบางสโมสรก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะกระแสเริ่มซากันไป เพราะกลัวว่าจะมาแย่งงานนักเตะไทย หรือ นักเตะดาวรุ่งของไทย

ส่วนวันลงสนาม ส่งลงสนามได้ดังนี้ 3+1+3 คือ ชาติใดก็ได้ 3 คน บวกเอเชีย 1 คน และบวกอาเซียน 3 คน ทำให้ถ้าใช้เต็มจำนวนตามนี้จะทำให้มีนักเตะไทยเหลือในสนามแค่ 4 คนเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว เขาไม่ได้บังคับให้ทำ ถ้าไม่ใช้อาเซียนเลยก็ได้ ถ้ามองว่านักเตะไทยดีกว่า หรือ จะไม่ใช้นักเตะต่างชาติใช้นักเตะไทยหมดเลยก็ได้

ที่สำคัญมากที่สุดที่พลิกโฉมการแข่งขันไปเลย คือ โตโยต้าไทยลีก ปี 2019 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้นำเทคโนโลยี VAR หรือ Vdo Assistant Referee ระบบการใช้วิดีโอช่วยตัดสิน รูปแบบเดียวกันกับ ฟุตบอลโลก 2018  คือปีที่แล้วใช้แบบบางคู่ แต่ปีนี้ 240 แมตช์ จะใช้ทุกแมตช์

ซึ่งมีศูนย์กลางระบบอยู่ ณ ที่ทำการ บริษัท ไทยลีก จำกัด ในกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่ดูแลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสนามทุกคู่พร้อมกัน ผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ และติดต่อสื่อสารกับผู้ตัดสินที่อยู่ในสนามด้วยเสียง ผ่านระบบสายเคเบิลใยแก้ว ส่วนระบบวีดิทัศน์ คือ EVS ที่ใช้ในการแข่งขันฟุตบอลลีกของยุโรป และระบบเสียง Vekkoro Trunked Radio ที่ใช้กับการแข่งขันของฟีฟ่าและเอเอฟซี (มีอยู่ แต่ยังไม่ดูจอที่ข้างสนามรอฟีฟ่า ดังนั้นผู้ตัดสินจะรับเสียงจากคนดูวีดีโอผ่านหูฟังแทนไปก่อน)

เทคโนโลยี VAR จะใช้ตัดสินสถานการณ์ 4 รูปแบบ อันประกอบไปด้วย

1. เป็นประตู/ไม่เป็นประตู (ลูกข้ามเส้นหรือไม่ข้ามเส้น, มีการฟาวล์ก่อน, ล้ำหน้า, ลูกบอลออกจากสนามก่อนเข้าประตู)

2. จุดโทษ/ไม่จุดโทษ (ตำแหน่งของการฟาวล์, ฝ่ายรุกทำฟาวล์ก่อน, ลูกบอลออกนอกสนามก่อนการฟาวล์, การที่ผู้รักษาประตูหรือผู้ยิงประตู ทำผิดกติกาขณะเตะจุดโทษ)

3. ใบแดงโดยตรง (เจตนาป้องกันประตูผิดกติกาอย่างตั้งใจ, การทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง)

4. ระบุตัวผู้เล่นผิดพลาด (เมื่อผู้ตัดสินคาดโทษหรือไล่ออกผู้เล่นผิดคน)

อย่างไรก็ตามปัญหาคือ ตอนนี้ระบบยังไม่ได้รับรองจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า อย่างเป็นทางการ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล และ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยถึง ตอนนี้เป็นการทดลองระบบ VAR แต่จะทำในทุกสนาม ก่อนจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการ

ส่วน ชิตวัน ชินอนุวัฒน์ ผู้อำนวยการสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด มองถึงการนำ VAR มาใช้ในไทยลีกว่า การมี VAR จะช่วยให้การตัดสินมีความโปร่งใสมากขึ้น

โปรแกรมการแข่งฟุตบอลไทยลีก

วันที่ 22 ก.พ. เวลา 20.00 น. ราชบุรี มิตรผล เอฟซี พบ ตราด เอฟซี

วันที่ 23 ก.พ. เวลา 17.45 น. ชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สุพรรณบุรี เอฟซี, เวลา 18.00 น. พีทีที ระยอง พบ นครราชสีมา มาสด้า, เวลา 19.00 น. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ชลบุรี เอฟซี และเวลา 20.00 น.สมุทรปราการ ซิตี้ พบ เชียงใหม่ เอฟซี

วันที่ 24 ก.พ. เวลา 18.00 น. สุโขทัย เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ เอสซีจี เมืองทอง พบ พีที ประจวบ เอฟซี, เวลา 19.00 น. สิงห์ เชียงราย พบ การท่าเรือ เอฟซี

ไปดูที่สนามกันเยอะๆ ทั้งหมดที่กล่าวมา สำคัญที่สุดคือแฟนบอล .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]