อีอีซีจะสร้างงานใหม่เกือบ 1 ล้านตำแหน่ง

กรุงเทพฯ 15 ก.พ. – เลขาฯ อีอีซี ระบุในช่วง 12 ปีข้างหน้าถึงปี 2573 หากการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเป็นไปตามแผนจะมีตำแหน่งงานใหม่รอคนไทยและต่างชาติให้เข้าไปทำมากถึงเกือบ 1 ล้าน 


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกหรือเลขาฯ บอร์ดอีอีซี แถลงผลการประชุมคณะกรรมการอีอีซี ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า ที่ประชุมได้ติดตามความก้าวหน้าแผนการพัฒนาบุคลากรและความก้าวหน้าของการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและผังเมือง โดยด้านบุคลากรสำนักงานอีซีซี ประเมิน ว่า ในอีก 12 ปีข้างหน้าจนถึงปี 2573 การลงทุนใน10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย หากเป็นไปตามแผนจะมีความต้องการตำแหน่งงานรวมประมาณ 1 ล้านตำแหน่งงาน  นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการทำงานร่วมกันในการพัฒนาบุคลากร เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงดิจิทัเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานอีซีซี โดยให้นำเสนอแผนงานอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป 


สำหรับการพัฒนาบุคลากร จะดำเนินการทิศทางใหม่ โดยเป็นการร่วมมือและแบ่งงานกันทำของกระทรวงสำคัญในการพัฒนาคน โดยยึดถือความต้องการ เพื่อให้บุคลากรทุกกลุ่มมีงานทำและมีรายได้สูงถ้วนหน้า ทำให้เกิดผลกับประชาชนได้จริง การพัฒนาบุคลากรจะเป็นการทำงานของกระทรวงหลักร่วมกันบูรณาการพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับการศึกษาสู่ 4.0 ซึ่งปีที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ทำงานร่วมกันในการพัฒนาบุคลากรในพื้นที่อีอีซีตามแผนปฏิบัติความร่วมมือพัฒนาบุคลากร เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อยกระดับการศึกษาที่คณะกรรมการอีอีซีได้อนุมัติไปเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2560 

กระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่ดูแลนักเรียน นักศึกษา ในระบบให้เป็นบุคลากร 4.0 ที่มีความรู้ทำงานได้จริง มีรายได้ดี ด้วยทักษะภาษา เทคโนโลยี ความรู้อุตสาหกรรมใหม่ และมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ซึ่งดำเนินการปรับคุณภาพหลักสูตรอาชีวศึกษาสู่ “อาชีวะพรีเมี่ยม” โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาจากต่างประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเยอรมนี ให้ได้รับทวิวุฒิ (Dual Degree) คือ วุฒิการศึกษาจากประเทศไทยและวิทยาลัยที่จับคู่ความร่วมมือ ขณะนี้เปิดหลักสูตรนำร่อง 6 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาระบบขนส่งทางราง ระบบเมคคาทรอนิกส์ และหุ่นยนต์ สาขาช่างอากาศยาน สาขาหุ่นยนต์เพื่อการอุตสาหกรรม สาขาโลจิสติกส์ และสาขาเกษตรสมัยใหม่ (Smart Farming) และมีการอนุมัติหลักสูตรใหม่ระดับนานาชาติได้รวดเร็ว โดยอนุมัติไปแล้ว 3 หลักสูตร คือ (CMKL/อมตะร่วมกับ Taiwan National University/ กลุ่มไมเนอร์ร่วมกับ La Rose ของสวิสเซอร์แลนด์) นอกจากนี้ ยังจัดการศึกษารูปแบบโคเซน (KOSEN) ที่แท้จริงในประเทศไทย เป็นสถาบันไทยโคเซนในประเทศไทยรับนักเรียน ม.3 เข้าศึกษาต่อที่สถาบันไทยโคเซน ผลิตวิศวกรนักปฏิบัติในปีการศึกษา 2562 เริ่มต้น 24 คน ที่โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ชลบุรี หลักสูตร เรียนไปทำงานจริง 

การจัดการศึกษาหลักสูตร Business and Technology Education Council (BTEC) ของ Pearson Education Limited แห่งสหราชอาณาจักร เริ่มปี 2562 ใน 4 สถาบัน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น และวิทยาลัยเทคโนโลยีจิตรลดา เตรียมคัดเลือกบุคลากรเพื่อเป็น “Master Trainers” เข้ารับการฝึกอบรมจาก BTEC จำนวน 1,000 คน ทำหน้าที่เป็น “ครูแม่ไก่” ในอนาคต 


จัดเตรียมเสนอโครงการตามแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จำนวน 16 โครงการ งบประมาณ 725 ล้านบาท เป้าหมายเพื่อ ผลิต พัฒนา ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา บุคลากร และผู้ประกอบการรองรับอีอีซีอย่างน้อยประมาณ 26,043 คน 

กระทรวงแรงงานรับผิดชอบการฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามความต้องการของเอกชน โดยเน้นคนที่จบการศึกษาและที่ทำงานแล้วให้มาสร้างความสามารถตรงกับความต้องการของตลาด โดยจัดตั้งศูนย์บริหารแรงงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC Labour Administration Centre) ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่  17 มกราคม 2562   จัดทำแผนการขับเคลื่อนศูนย์บริหารแรงงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC Labour  Administration Centre) โดยร่วมกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา จัดทำฐานข้อมูลความต้องการแรงงาน จัดหาแรงงานให้ตรงกับความสามารถ การพัฒนาฝีมือแรงงาน รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ นายจ้างและนักลงทุนด้าน VISA และ Work Permit ในพื้นที่อีอีซี โดยกำหนดมาตรการขับเคลื่อนระยะปีแรกจัดหาแรงงานที่ขาดแคลนในพื้นที่อีอีซี 14,767 อัตรา ให้กับสถานประกอบกิจการ  1,011 แห่ง  ได้เริ่มดำเนินการแล้ว ระยะปานกลาง สำรวจความต้องการแรงงาน จัดระบบฐานข้อมูล ปรับเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาคนของประเทศทั้งระบบ ตั้งแต่กระบวนการคิด การเรียนการสอน การฝึกอบรม ไปจนถึงการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของแรงงาน 

ด้านสำนักงานอีอีซี ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานหลักและทำโครงการต้นแบบพร้อมขยายผล ได้แก่ ขยาย “สัตหีบโมเดล” เป็นโครงการของอีอีซี โดยขยายสู่วิทยาลัยอาชีวะ 12 แห่ง รับนักศึกษาปีนี้ทั้งสิ้น  932 คน โดยผู้เข้าเรียนไม่มีค่าใช้จ่าย และยังได้เบี้ยเลี้ยง, จัดทำ short course training ที่ปรับคนที่จบมาแล้ว ให้มีงานที่ดี โดยร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยบูรพา และกลุ่มสถาบันต่าง ๆ, ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยบูรพา และ Mitsubishi Factory Automation จัดตั้งศูนย์ความร่วมมือ EEC – Mitsu – BUU Automation Centre เพื่อเตรียมการพัฒนาศูนย์เรียนรู้อัตโนมัติที่ใหญ่ และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย 

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแผนสิ่งแวดล้อมฯ ในพื้นที่อีอีซี ที่ประชุมรับทราบหลักการแผนสิ่งแวดล้อมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 – 2564 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำเสนอ รวม 86 โครงการ วงเงินรวมทั้งสิ้น 13,572 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณ 9,299 ล้านบาท และการร่วมลงทุนรัฐและเอกชน หรือ PPP 4,274 ล้านบาท แยกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่  จัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดี 27 โครงการ, ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมเมือง และชุมชนอย่างน่าอยู่14 โครงการ, ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 8 โครงการและ บริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ อย่างมีประสิทธิภาพ 37 โครงการ ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการทันที ที่ประชุมจึงให้ความสำคัญกับโครงการเร่งด่วน (Flagship Project) 14 โครงการ งบประมาณ 4,342 ล้านบาท และรัฐร่วมทุนเอกชน PPP 4,273 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้  กลุ่มที่ 1 การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน เร่งการจัดการมลพิษที่เป็นปัญหาสะสมในพื้นที่ ทั้งขยะและน้ำเสีย โดยเน้นจัดหาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ ให้มีศักยภาพในการรองรับมากขึ้น 

กลุ่มที่ 2 เตรียมการรองรับสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม และการฟื้นคืนทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต โดยเร่งการศึกษาประเมินผลคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมการฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อเป็นฐานการพัฒนาประเทศต่อไป 

ทั้งนี้ การขับเคลื่อนแผนสิ่งแวดล้อมฯ จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่ไปกับการสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Creative and Green Economy) ที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ สามารถเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างเท่าเทียมกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนฟ้าคะนอง

กทม. 15 มิ.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณมณฑลกว่างซี ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย