ปรีชาพล เผยยังไม่รู้ กกต.ตัดสินยุบพรรคด้วยข้อหาใด

พรรคไทยรักษาชาติ 13 ก.พ.- “ปรีชาพล” เผยยังไม่รู้ว่า กกต.ร้องหรือตัดสินยุบพรรคด้วยข้อหาใด เรายัง งง ๆ ว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ขอใช้สิทธิในฐานะพรรคการเมือง เตรียมร้องศาล รธน. ขอรับทราบข้อกล่าวหา-ชี้แจงพยานหลักฐาน ด้าน “พิชิต” เสียงสั่นเครือขอให้ศาลเมตตา มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหา


เมื่อเวลา 13.20 น.  ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ และนายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนกรณีที่ กกต. มีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคไทยรักษาชาติ โดย ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่คำร้องเราก็ยังไม่เห็น หากทราบรายละเอียดแล้วจะให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงเวลา 15.00 น. จะได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอใช้สิทธิรับทราบข้อกล่าวหา เพื่อชี้แจงพยานหลักฐาน เพราะขณะนี้เรายังไม่รู้ว่า กตต.ร้อง หรือตัดสินเราด้วยเรื่องอะไร ข้อหาใด เรายัง งง ๆ ว่า ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา กระบวนการเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ดังนั้น จึงอยากขอใช้สิทธิในฐานะพรรคการเมือง 

เมื่อถามถึงการเดินหน้าหาเสียงหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ขณะนี้ทีมหาเสียงของเราที่แบ่งเป็น 7 ทีมยังลงพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง และผู้ประสานของพรรคก็ประสานงานกับ ส.ส. โดยตลอด ส่วนแกนนำพรรคในส่วนกลางจะพิจาณาเรื่องการลงพื้นที่ในอาทิตย์หน้า เพราะอาทิตย์นี้รู้สึกว่า ทุกอย่างชุลมุนพอสมควรจึงต้องโฟกัสในเรื่องของคดี และการจัดการในส่วนกลางก่อน อาทิตย์หน้าคงชัดเจนว่าจะลงพื้นที่อย่างไร และพื้นที่ไหนบ้าง 


“พรรคต้องเดินหน้าต่อ เพราะเราเป็นความหวังของผู้สมัคร และประชาชน ซึ่งเราประกาศตัวชัดเจนว่าเราพร้อมลงสนามเลือกตั้ง และตั้งแต่มีพรรคมาเราก็ทำกิจกรรมมาตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากให้เกิด เราตั้งใจดี ไม่มีใครปรารถนาร้าย ขอยืนยันคำเดิมว่าเราบริสุทธิ์ใจ” ร.ท.ปรีชาพล กล่าว

เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหากพรรคถูกยุบหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า มันคงเร็วเกินไปที่จะไปพูดในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที ณ วันนี้ เราต้องสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก และผู้สมัครว่าเรายังเดินหน้าต่อ เพราะความสิ้นสุดของพรรคการเมืองจะมีต่อเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลออกมา เราจึงต้องเป็นหลักให้สมาชิก และผู้ให้การสนับสนุน

ด้านนายพิชิต แถลงข่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ว่า  ความสิ้นสุดของพรรคการเมืองจะสิ้นสุดต่อเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสิ่งที่กกต.กล่าวหา แต่การที่กกต.ตั้งข้อกล่าวหาโดยที่พรรคไม่มีสิทธิแม้แต่รับทราบข้อกล่าวหา ไม่มีโอกาสแสดงข้อเท็จจริง พยานหลักฐานใด ๆ จึงถือว่าชั้นสอบสวนเราไม่มีโอกาสเลย เมื่อตอนนี้เรื่องไปอยู่ในกระบวนการของศาล เพราะศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ กกต. แล้ว ฝ่ายกฎหมายของพรรคจะไปยื่นคำร้องขอความเมตตาต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีโอกาสได้รับทราบข้อกล่าวหาตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด


นายพิชิต กล่าวว่า ตอนนี้ พรรคไทยรักษาชาติ ถือเป็นคู่กรณีกับ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นคนกลางในการวินิจฉัย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมเราจะไปยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลเมตตา โดยยึดหลักนิติธรรม ที่สำคัญที่สุด ขอให้พรรค มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหา อ้างพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ว่าเราไม่ได้กระทำผิด พรรคไทยรักษาชาติ  มีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งสมาชิก ทั้งสาขา หลายฝ่ายสอบถามเข้ามาเรื่องความกังวล การจะสิ้นสุดสภาพของพรรคการเมืองจึงต้องขอความเมตตาต่อศาลรัฐธรรมนูญให้กระบวนการพิจารณาเป็นไปโดยถูกต้อง และเที่ยงธรรมตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนการยื่นพยานหลักฐานจะเป็นอย่างไรนั้น เราขอโอกาสเห็นข้อกล่าวหาก่อน เราจะได้รู้ประเด็น เวลานี้จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะยื่นพยานอย่างไร 

“เรามั่นใจในกระบวนการยุติธรรม เพราะศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นองค์กรสูงสุดที่ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม เมื่อเราเป็นคู่กรณี ตามหลักนิติธรรม คู่กรณีควรมีโอกาสในการแก้ข้อกล่าวหา เราเสียใจที่ชั้นสอบสวนไม่มีโอกาสแม้แต่จะทราบข้อกล่าวหา ทุกอย่างมันรวดเร็วมาก และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ กกต. จะมีการประกาศรับรองผู้สมัครส.ส. จึงตั้งข้อสังเกตว่า กกต. คิดอะไร” นายพิชิต กล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ได้เกิดแฮชแท็ก #saveไทยรักษาชาติ ขึ้นบนโลกโซเชียลด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.แจงปม “ปราสาทตาควาย” ยึดไม่ได้ 100% เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิง

31 ก.ค.- ทบ.แจงปมทหารไทยยึด “ปราสาทตาควาย” ไม่ได้ 100% ไม่ใช่ตัวชี้วัดแพ้ชนะ แต่ได้พื้นที่มากกว่าก่อนปะทะ ลั่นยึดเนิน 350 จุดสูงข่มไม่ได้ เจอสนามทุ่นระเบิด BM-21 จ่อยิงหากเคลื่อนกำลังไปตัวปราสาทฯ ชี้ทีมโฆษก ทบ. ไม่ได้รับการประสานจากรัฐบาลก่อนเจรจาหยุดยิงถึงสถานการณ์หน้างาน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่การปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดมีเพียงปราสาทตาควายที่เดียว มีข้อจำกัด หากจะพูดถึงการควบคุมพื้นที่ เราสามารถควบคุมได้ตามแผน ตามเป้าหมายทางการทหารที่ได้วางไว้ โดยพื้นที่ปราสาทตาควาย ถือเป็นความพยายามสุดท้ายของทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชา ก่อนถึงเวลาหยุดยิง ยอมรับว่า ปัจจุบันเราไม่สามารถควบคุมพื้นที่ได้ 100% เพียงแต่เราได้พื้นที่ควบคุมเพิ่มมากขึ้นก่อนที่จะมีการปะทะ จะเห็นว่าปัจจุบันเราควบคุมพื้นที่ได้ด้วยการใช้อาวุธยิง ซึ่งลักษณะการวางกำลังบริเวณปราสาทตาควายจะอยู่ในพื้นที่ส่วนกลาง และพื้นที่ที่เป็นจุดสำคัญทางการทหาร ไม่ใช่ตัวปราสาทตาควาย เพราะเป็นพื้นที่ต่ำ แต่เดิมหากเราวางกำลังประจำอยู่ที่ปราสาทตาควาย จะเป็นความไม่ปลอดภัยในเรื่องของการใช้อาวุธจากฝ่ายตรงข้าม เราจึงให้ความสำคัญกับเรื่องของการคุมพื้นที่ ห้วงสุดท้ายสำหรับการใช้กำลัง เราพยายามกระทำต่อเป้าหมายจุดสูงข่ม คือ เนิน 350 ซึ่งอาจจะมองว่าอยู่ในฝั่งของประเทศเพื่อนบ้าน แต่เป็นจุดสำคัญที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติทางทหาร จึงเป็นความสำคัญสูงสุดที่เราจะต้องยึดที่หมายนี้ให้ได้ แต่เวลามีให้เราไม่เพียงพอ ซึ่งอย่างน้อยเราก็สามารถควบคุมพื้นที่ส่วนรวมด้วยอาวุธ ทั้งนี้ เนิน 350 เป็นพื้นที่วางกำลังของทหารกัมพูชา […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ทอ.โต้กัมพูชาอ้างขุดพบ MK-84 ชี้ระเบิดเก่าขึ้นสนิม ยันไม่ใช่ของไทย

31 ก.ค.- โฆษกกองทัพอากาศ ยันระเบิดที่ถูกขุดพบจากกัมพูชา ไม่ใช่ของกองทัพอากาศที่ปฏิบัติกับฐานที่มั่นทางทหารของกัมพูชา ตั้งข้อสังเกตเก่า เหมือนถูกขุดจากใต้ที่พักอาศัย จากกรณีที่พบระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาขุดขึ้น ตามที่เฟซบุ๊กของนายแฮง รัตนา เอาภาพมาลงนั้น พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ระบุกว่า ได้มีข้อสังเกตว่า ระเบิดดังกล่าวอยู่ในสภาพเก่าและมีลักษณะคล้ายถูกขุดขึ้นมาจากใต้ที่พักอาศัยของประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากปฏิบัติการทางอากาศในช่วงที่ผ่านมา ดูจากสภาพที่ขึ้นสนิมไม่ใช่ของกองทัพอากาศไทย เนื่องจากลูกระเบิดที่กองทัพอากาศใช้มีสภาพใหม่และสมบูรณ์ ไม่เป็นสนิมขนาดนั้น ดูจากเส้นรอบวงโดยประมาณและความยาวคาดว่าเป็นลูกระเบิดอากาศขนาด 2000 ปอนด์ แบบตะวันตกที่มีใช้ทั่วไปสภาพความลึก และวางขนานกับพื้น ไม่เหมือนทิ้งจากเครื่องบิน .-313 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปากตระกูลฮุน

กระทรวงมหาดไทย 31 ก.ค.- “ภูมิธรรม” เสียใจผู้อพยพจบชีวิตเหตุเครียดอยากกลับบ้าน ขอประเมินให้ปลอดภัยก่อน บอกไทยประสบความสำเร็จยึดดินแดนได้ ปัดตอบเสียปราสาทตาควาย ไม่เชื่อลมปาก 2 พ่อลูกตระกูลฮุน ชี้ ทหารกัมพูชา 18 นาย รุกล้ำเข้าไทยหลังประกาศหยุดยิง เตรียมส่งตัวคืน แต่อีกฝ่ายปล่อยเฟกนิวส์ จึงต้องคุมตัวสอบก่อน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้วหรือไม่ เนื่องจากตอนนี้พบว่ามีประชาชนฆ่าตัวตาย เพราะเครียดต่อสถานการณ์และอยากกลับบ้าน ว่าตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิต พร้อมยอมรับว่าเป็นความห่วงใยของรัฐบาล แม้ว่าจะอยากให้เดินทางกลับบ้านพักเลยแต่สถานการณ์ยังไม่มั่นใจ 100 % เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่กัมพูชาพูดสามารถเชื่อได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักบิดเบือนจากข้อเท็จจริง ซึ่งต้องรอการประเมินอีกครั้งหนึ่งก่อนว่าหากไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นก็สามารถเดินทางกลับบ้านพักได้ ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าการที่กัมพูชาพาผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงพื้นที่ เป็นเพราะเขาเป็นผู้ก่อเหตุจึงมั่นใจว่าเราจะไม่ทำอะไร และเราเองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มั่นใจว่ากัมพูชาจะกระทำอย่างไร ส่วนไทยจะใช้มาตรการเชิงรุกทั้งด้านการทูตและด้านพื้นที่อย่างไร นายภูมิธรรม ระบุว่า ขณะนี้เราไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การดำเนินการต่างๆเราก็คุยกับนานาชาติอยู่เสมอ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่หลักฐานเพราะเขาพูดไปได้เรื่อยๆ แต่เราพูดมีหลักฐานรองรับ ขณะที่ข้อเท็จจริงเรื่องปราสาทตาควายที่มีการพูดกันว่าทางกัมพูชาเข้าครอบครองตัวปราสาท แต่เราได้ครอบครองเพียงพื้นที่โดยรอบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากพูดถึงในแง่การยุทธ์ การยึดคืนในพื้นที่ต่างๆ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แล้วพื้นที่ตัวปราสาทเป็นเช่นไร […]