“รอง ผบก.น.3″ยันคดียิง นศ.เทคโนฯย่านบางกะปิ ตร.ไม่ทำเกินกว่าเหตุ!!

กรุงเทพฯ 11 ก.พ.- รองผู้บังคับการนครบาล 3 ยัน คดียิงนักศึกษาเทคโนฯ ย่านบางกะปิ ตำรวจไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ สามารถอธิบายข้อเท็จจริงได้ทุกขั้นตอน


พันตำรวจเอกชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3  ระบุถึงกรณีที่ตำรวจชุดสืบสวนนครบาล 4  ยิงนักเรียนเทคโนฯย่านบางกะปิ เสียชีวิต เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา ว่า ตำรวจไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ เหตุการณ์ทุกอย่างชี้แจงได้โดยมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิด เรื่องที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากตำรวจชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ซึ่งเป็นชุดปราบปรามยาเสพติดได้ไปจับกุมกลุ่มวัยรุ่นในคดียาเสพติด 3 คนโดยในขบวนรถคันแรกเป็นรถของหัวหน้าชุด คันที่สองเป็นรถของทีมงานตำรวจ และคันสุดท้ายเป็นรถกระบะตราโล่ซึ่งควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่กระบะท้าย ส่วนตัวตำรวจอยู่ภายในรถ ระหว่างที่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีกลุ่มรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขับเข้ามาตีคู่ที่กระบะด้านหลังและถามผู้ต้องหาว่า “ใครด่าแม่กู “ จากนั้นก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปปาดหน้ารถกระบะที่ควบคุมตัวผู้ต้องหา (คันที่ 3) ก่อนจะใช้อาวุธปืน กระหน่ำยิงเข้าไปภายในรถของตำรวจด้านซ้าย ซึ่งมีร่องรอยของหัวกระสุนฝังอยู่ภายในตัวถังและที่ยางล้อรถ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถกระบะพุ่งชนเพื่อให้รถของผู้เสียชีวิตล้มและจะเข้าจับกุมตัว ก่อนผู้เสียชีวิตจะยิงปืนตอบโต้ตำรวจ  ตำรวจจึงตัดสินใจยิงสวนจากภายในรถ กระทั่งทราบภายหลังว่ามีผู้เสียชีวิต หัวหน้าชุดจับกุมที่ใส่เสื้อสีแดงตามคลิปภาพได้ขับรถกลับมาดูที่ท้ายขบวนและเรียกให้พนักงานสอบสวน สน. มีนบุรี เจ้าของพื้นที่และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งระหว่างนั้นกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตได้กรูเข้ามาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจเนื่องจากเข้าใจว่าชายเสื้อสีแดงซึ่งเป็นหัวหน้าชุดจับกุมเป็นคนทำร้าย และในระหว่างที่ชุลมุนกันอยู่นั้น หัวหน้าชุดจับกุมเห็นว่าจะเป็นอันตรายเพราะกลุ่มเพื่อนของผู้ตายเริ่มประชิดตัวเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีอารมณ์โกรธแค้นจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าสองนัดและพูดว่า “ใครเข้ามากูยิง “ แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสวนออกไปเพื่อเปิดทางหนี

พันตำรวจเอกชาญวิทย์ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถชี้แจงได้ในทุกประเด็นและสามารถให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายได้ โดยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุแต่เป็นการป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ที่กำลังควบคุมตัวผู้ต้องหาออกจากพื้นที่ และจากการตรวจสอบข้อมูลของชุดจับกุมทั้งหมด   เบื้องต้นพบว่าไม่มีประวัติความขัดแย้งกับกลุ่มของผู้ตายมาก่อน ทั้งนี้ตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้ต้องหา 3 คนที่อยู่ท้ายกระบะของตำรวจอาจพยายามหาทางหลบหนีโดยใช้วิธีการ ชวนผู้ตายทะเลาะเพื่ออาศัยจังหวะหลบหนี ซึ่งประเด็นดังกล่าวตำรวจอยู่ระหว่างนำตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนที่ท้ายกระบะมาสอบสวนอย่างละเอียดว่าช่วงก่อนเกิดเหตุได้มีการตะโกนด่าทอหรือชักชวนทะเลาะวิวาทหรือไม่ 


ส่วนกรณีที่กลุ่มวัยรุ่นมีการถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ จนตนเองเกือบโดนทำร้ายด้วยนั้น พันตำรวจเอกชาญวิทย์ ระบุว่า จะไม่ดำเนินคดีกับกลุ่มที่เข้ามาทำร้ายเพราะเข้าใจความรู้สึกดี.- สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์

การจราจรมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า

คนแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ เส้นทางมุ่งหน้าภาคอีสานเริ่มหนาแน่นตั้งแต่เช้า แต่ยังเคลื่อนตัวได้ ยังไม่เปิดช่องทางพิเศษ

จุดเทียนรำลึก 20 ปี สึนามิ

ค่ำคืนนี้ ที่อนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา สว่างไสวจากแสงเทียนนับพันเล่มที่ถูกจุดขึ้นเพื่อรำลึกถึงบุคคลที่รักซึ่งจากไปในเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 จากวันนั้นถึงวันนี้ ครบ 20 ปีเต็ม