กรุงเทพฯ 8 ก.พ.- ผบ.ตร.กำชับให้ทำสำนวนคดีทำร้ายร่างกาย จนท.กรมควบคุมโรค จ.ราชบุรี อย่างตรงไปตรงมาตามพยานหลักฐาน พร้อมให้ความเป็นธรรมเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีตัวแทนเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา พร้อมด้วยเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่กว่า 20 คน เดินทางมายืนหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กรณีพนักงานสำนักงานควบคุมโรคที่ 5 กรมควบคุมโรค ถูกชายฉกรรจ์ข่มขู่ทำร้ายร่างกายระหว่างลงพื้นที่ใน จังหวัดราชบุรี ตรวจสอบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแฮลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 08.20 น. บริเวณเต็นท์อำนวยการหน้าโบสถ์ วัดหนองนกกระเรียน ต.รางบัว อ.จอมบึง จว.ราชบุรี นายแพทย์สมาน ฟุตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี พร้อมกับพวก ได้เข้าตรวจสอบงานปิดทองประจำปี วัดหนองนกกระเรียน หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่เข้าไปเที่ยวงานและพบว่ามีการเปิดลานเบียร์สดยี่ห้อหนึ่ง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นช่วงที่ นายแพทย์สมานฯ กำลังพูดคุยกับเจ้าอาวาสวัด โดยในมือถือกระดาษซึ่งเป็นข้อตกลงที่เจ้าของงาน เขียนขึ้นก่อนจะมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหยิบแผ่นกระดาษดังกล่าวคืน แต่นายแพทย์สมานฯ ได้ขอเอกสารฉบับดังกล่าวไว้อีกครั้ง แต่ชายคนดังกล่าวกลับตอบว่า ท่านถ่ายไว้แล้วจะเอาไปไหน ซึ่งทางนายแพทย์สมานฯ บอกว่า ขอไว้ก่อนเพราะกำลังคุยกับเจ้าอาวาสอยู่ จากนั้นฝ่ายเจ้าของผู้จัดงานก็เริ่มเสียงดังใส่และมีการไปกระชากมือของนายแพทย์สมานฯ จนทำให้เจ้าหน้าที่ของอำเภอต้องลุกขึ้นมาห้าม จากนั้นมีชายอีกคนได้เข้าทำร้ายช่างภาพของทีมนายแพทย์สมานฯ จนทำให้เจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองและทหารต้องเข้าระงับเหตุ
ต่อมาในวันที่ 7 ก.พ.ผู้เสียหายได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.จอมบึง และได้สอบปากคำพยาน รวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกายกับแพทย์เพื่อนำผลมาประกอบคดี พร้อมฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่แสวงหาพยานหลักฐาน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นนั้นการกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมีความผิดข้อหา ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือ เพราะได้กระทำการตามหน้าที่ , ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่และทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
สำหรับประเด็นที่ผู้ร้องเรียน ร้องว่าพบมีการสมยอมระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันจนทำให้ไม่มีการบังคับใช้กฎหมายและปล่อยให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมนั้น ได้มีคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วนมาโดยตลอด ในการรณรงค์ ขอความร่วมมือ ป้องกัน และจับกุมปราบปราม ผู้ประกอบการที่จำหน่ายสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในสถานที่ต้องห้าม อาทิ สถานศึกษา วัด หน่วยงานราชการ เป็นต้น ตลอดจน การบูรณาการร่วม หน่วยงานสาธารณสุข ทหาร ปกครอง และเอกชน เข้าตรวจสอบ สถานบริการ อายุของผู้ใช้บริการ และการกระทำความผิดตามกฎหมาย ยังสถานประกอบการต่างๆ พร้อมทั้ง กำชับพนักงานสอบให้ดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบครอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ และ ได้เน้นย้ำ ให้การดำเนินการสืบสวนสอบสวนในทุกคดีให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย