รัฐสภา 6 ธ.ค.-มีชัยเผยกรธ.จะเปิดร่างพ.ร.ป.พรรคการเมืองพรุ่งนี้ ยืนยันไม่ได้ถ่วงเวลา ระบุสมาชิกแม่น้ำ 5 สายต้องลาออกก่อนรับตำแหน่งองคมนตรี
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการ่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) กรธ.จะเผยแพร่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองต่อสื่อมวลชนและเว็ปไซต์ของกรธ. แต่หากพรรคการเมือง ต้องการทราบรายละเอียดสามารถขอมาที่กรธ.ได้ ยืนยันว่ากรธ.ไม่ได้ถ่วงเวลา เนื่องจากเบื้องต้นกรธ.ได้ส่งร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญจากองค์กรอิสระต่าง ๆ ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณาไปก่อนแล้ว เพื่อให้คำแนะนำไปพร้อม ๆ กัน
“ขอพรรคการเมืองอย่าคาดเดาเนื้อหาของร่างกฎหมายพรรคการเมืองไปล่วงหน้าว่าจะปิดกั้นการรวมตัวจัดตั้งพรรคการเมือง จากกรณีการกำหนดให้ต้องจ่ายค่าสมาชิกพรรคคนละ 2,000 บาท” ประธานกรธ. กล่าว
นายมีชัย กล่าวถึงกรณีที่สมาชิกในแม่น้ำ 5 สายได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรี ว่า จะต้องลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองก่อนเป็นเข้ารับตำแหน่ง
นายมีชัย ในฐานะประธานคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าการยกร่างกฎหมายแผนและวิธีการปฏิรูปประเทศ และร่างกฎหมายการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ว่า นายกรัฐมนตรีได้เร่งรัดร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งขณะนี้ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว ยืนยันว่าประชาชนจะมีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้วย
นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) กรธ.จะเผยแพร่และชี้แจงสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองต่อสื่อมวลชนทีอาคารรัฐสภา เวลา 13.00-14.00 น. โดยมีนายศุภชัย ยาวะประภาษ กรธ.และตนเองเป็นผู้ชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ จากนั้นในวันที่ 14 ธันวาคมจะชี้แจงต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สโมสรสันนิบาต ถ.พิชัย เวลา 13.30-16.00 น.ทั้งนี้ กรธ.รับฟังข้อมูลจากทุกฝ่ายที่ได้สะท้อนมา ทั้งการกำหนดทุนประเดิมจัดตั้งพรรคการเมืองจำนวน 1 ล้านบาท และการเสียค่าสมาชิกพรรคเป็นรายปี
โฆษกกรธ.เปิดเผยรายงานสรุปผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ทำร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการให้พรรคการเมืองกำหนดให้สมาชิกพรรคเป็นรายปีเอง แต่กำหนดจำนวนเงินที่แตกต่างกันไป ส่วนการกำหนดให้รัฐจ่ายเงินสมทบให้พรรคการเมือง เมื่อพรรคการเมืองได้รับเงินค่าสมาชิกจากสมาชิกพรรคเป็นรายปี ยังมีความเห็นไม่สอดคล้องกัน
“เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการกำหนดให้แต่ละพรรคการเมืองมีเงินประเดิม 1 ล้านบาทจากสมาชิกผู้ก่อตั้งพรรค และเห็นด้วยในการดำเนินการเพื่อให้ได้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เช่น การเป็นสมาชิก การจัดการหาเสียง และตรวจสอบการทำงานของพรรค และสัดส่วนที่เห็นด้วยมากที่สุดถึงร้อยละ 91.4 คือ การกำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ทุจริตการเลือกตั้งและกรรมการบริหารพรรคมีส่วนรู้เห็น เมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้กรรมการบริหารพรรค ถูกเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย