BIG STORY : เปิดชนวนเหตุ “ฮาคีม” จากนักฟุตบอล-สู่นักโทษ

กทม. 5 ก.พ. – ชื่อของ “ฮาคีม อัล อาไรบี” กลายเป็นชื่อที่หลายคนเริ่มคุ้นหู หลังมีข่าวคราวเกี่ยวกับการถูกจับ และอยู่ระหว่างพิจารณาถูกส่งไปกลับไปยังบาห์เรน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เกิดอะไรขึ้นกับเขา 


นี่เป็นคำพูดของนายฮาคีม อัล อาไรบี ที่กล่าวกับสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศ เรียกร้องไปยังทั่วโลกให้ช่วยเหลือไม่ให้ตัวเขาต้องถูกส่งกลับไปยังบาห์เรน ถ้อยคำดังกล่าวสะเทือนไปยังคนทั้งโลกที่จับตาสถานการณ์ของเขาว่าอาจถูกเปลี่ยนจากสถานะผู้ลี้ภัยในออสเตรเลียให้กลายมาเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ “อาจ” ถูกส่งกลับไปในคุกที่บาห์เรน


ก่อนหน้านี้ “ฮาคีม” เป็นนักฟุตบอลของทีม “พาสโก เวล” ทีมระดับลีกรองของออสเตรเลีย ลงสนามในตำแหน่งแบ็กขวาและเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ อีกทั้งยังเคยมีประวัติรับใช้ทีมชาติบาห์เรนในช่วงเวลาหนึ่ง

แต่ชนวนเหตุที่ “ฮาคีม” ถูกติดตามตัวจากบาห์เรน มีสาเหตุมาจากเขาเข้าถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินราชการในช่วงที่มีการชุมนุมในบาห์เรน ระหว่างวิกฤตการณ์ “อาหรับสปริง” เมื่อปี 2555 เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ศาลตัดสินให้จำคุก 10 ปี จนท้ายสุดได้หลบหนีออกจากบาห์เรน และขอลี้ภัยที่ออสเตรเลีย


แต่ทว่าเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนปีที่แล้ว “ฮาคีม” พร้อมภรรยา ได้เดินทางมาฮันนีมูนในไทย แต่ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพราะมีหมายจับของตำรวจสากล แม้หลังจากนั้น 6 วันให้หลัง ตำรวจสากลได้ถอนหมายจับออกจากหน้าเว็บไซต์ แต่ “ฮาคีม” ยังต้องถูกจองจำจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากบาห์เรนได้ส่งหนังสือขอให้ไทยส่งตัวกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน แม้ระหว่างไทยและบาห์เรนไม่มีสนธิสัญญาระหว่างกัน

กระทั่งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อัยการได้ส่งเรื่องให้ศาลอาญาพิจารณาส่งตัว “ฮาคีม” กลับไปยังบาห์เรนในฐานะเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ท่ามกลางชาวออสเตรเลียและซิดนีย์ รวมถึงเมลเบิร์น ชุมนุมเรียกร้องให้ไทยปล่อยตัวนักฟุตบอลรายนี้

นอกจากนี้ ในแวดวงกีฬายังเกิดกระแสที่นักฟุตบอลชื่อดังโพสต์อินสตาแกรมและติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์ #SaveHakeem เพื่อช่วยเหลือ “ฮาคีม” และลุกลามไปจนถึงกรณีที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ที่อาจมีแนวทางกดดันวงการฟุตบอลของไทย แต่กรณีดังกล่าวมีคำยืนยันจากนายกสมาคมฟุตบอลฯ ว่าไม่สามารถทำได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับฟุตบอล แต่เป็นเรื่องของคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ

ต้องจับตาแนวทางการต่อสู้คดีของทนายความของ “ฮาคีม” เพื่อยืนยันถึงสถานะเป็นผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองของออสเตรเลีย และในวันที่ 22 เมษายน น่าจะมีคำตอบว่า “ฮาคีม” จะเดินทางไปที่ใด. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง