พม. จัดหน่วยเลือกตั้งบริการคนพิการ 14 จุด

พม.  5 ก.พ. – พม. เตรียมหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้า 17 มี.ค.62  สำหรับคนพิการ 14 จุด พร้อมซ้อมการเข้าคูหา


นายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลัง เป็น ประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งของคนพิการ และผู้สูงอายุ ปี 2562 พร้อมซักซ้อมให้คนพิการในความอุปการะ และผู้สูงอายุได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ว่า หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศกำหนดวันเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 นอกจากคนปกติทั่วไปแล้วที่จะต้องออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง คนพิการและผู้สูงอายุก็ต้องออกมาใช้สิทธินี้ด้วย โดยเฉพาะในส่วนของคนพิการ  จากข้อมูลคนพิการที่มาขึ้นทะเบียนเพื่อออกบัตรประจำตัวคนพิการ ( ณ วันที่ 1 มกราคม 2562) มีคนพิการที่มีสิทธิเลือกตั้ง อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,834,808 คน ซึ่งคนพิการ และผู้สูงอายุ สามารถออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้



 โดยสามารถลงทะเบียน ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ผ่าน 3 ช่องทาง   1) ยื่นด้วยตนเองโดยการยื่นคำขอต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น  2) ยื่นทางไปรษณีย์ จ่าหน้าซองถึงนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น ระบุหมายเลขประจำตัวประชาชนและที่อยู่ตามทะเบียนบ้านให้ชัดเจน และระบุสถานที่เลือกตั้งที่ต้องการไปเลือกตั้งล่วงหน้า โดยถือวันประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ และ 3) ยื่นทางอินเทอร์เน็ต หรือมอบหมายผู้อื่นยื่นแทน และเมื่อลงทะเบียนแล้วสามารถใช้สิทธิล่วงหน้าได้ในวันที่ 17 มีนาคม 2562 

สำหรับที่จัดให้เป็นสถานที่เลือกตั้งกลางสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ 9 แห่ง ได้แก่ 1)  ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค เขตภาษีเจริญ 2)  บ้านผู้สูงอายุบางแค 2 เขตบางแค 3) โรงพยาบาลทหารผ่านศึกเขตพญาไท 4) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 5) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา 6) สถานสงเคราะห์คนชราวัยทองนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ 7) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุจังหวัดนครพนม 8) ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางละมุง จังหวัดชลบุรี และ 9) มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี และเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนพิการพม. รวมกับ กกต.จัดหน่วยเลือกตั้งพิเศษ เพิ่ม 5 แห่ง ได้แก่ 1) สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ2) สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จังหวัดนนทบุรี 3) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านศรีวนาไล จังหวัดอุบลราชธานี 4) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการบ้านโมกุล จังหวัดลพบุรี และ 5) ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ จังหวัดหนองคาย 

ซึ่งหน่วยเลือกตั้งพิเศษดังกล่าว จะมีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการ และผู้สูงอายุ ได้แก่ ที่นั่งรอ ช่องทางพิเศษ จุดจอดรถคนพิการ ผู้สูงอายุ ห้องน้ำและราวจับ พร้อมมีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือกรณีที่ผู้มีสิทธิไม่สามารถทำเครื่องหมายหรือลงคะแนนเสียงได้ด้วยตัวเอง พร้อมมีบัตรเลือกตั้งอักษรเบลล์อธิบายรายละเอียดชื่อพรรคการเมือง เป็นต้น เช่นเดียวกับวันเลือกตั้งจริง วันที่ 24 มีนาคม 2562  ด้วย ทั้งวันเลือกล่วงหย้าและวันจริง สามารถมาใช้สิทธิได้ ระหว่างเวลา 08.00-17.00 น..-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด