ภูมิภาค 5 ก.พ. – นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.เขต 3 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซยืนยัน “ผมสบายดี ไม่ได้ถอนตัว” หลังมีการเปลี่ยนผู้ลงสมัคร ส.ส.เขต 3 สงขลา กะทันหัน
ส่วนบรรยากาศการรับสมัคร ส.ส.วันที่ 2 ในส่วนของต่างจังหวัดค่อนข้างเงียบเหงา ส่วนใหญ่เป็นพรรคเล็ก ขณะที่หลายพรรคการเมืองลงพื้นที่หาเสียงกันคึกคัก
ที่จังหวัดบึงกาฬ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ นายเกรียงศักดิ์ วงศ์คงคำ นำทีม ลงพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 7 ต.วิศิษฐ์ ตั้งแต่เช้าแจกเอกสารแนะนำตัว พร้อมกล่าวปราศรัยหาเสียง ขอโอกาสให้เข้ามารับใช้ประชาชน ซึ่งให้ความสำคัญกับผู้มีรายได้น้อย มุ่งเน้นขจัดความเหลื่อมล้ำ สานต่อนโยบายรัฐบาล แก้ปัญหาที่ดินทำกิน พร้อมชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
ส่วนที่จังหวัดสงขลา นายนราเดช คำทัปน์ ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคภูมิใจไทย พร้อมขบวนรถจักรยานยนต์ รถยนต์ ติดธงสัญลักษณ์ของพรรค เดินทางไปรอบพื้นที่อำเภอเมืองสงขลา พูดคุยแนะนำตัวกับประชาชน
เช่นเดียวกับ นายชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปแนะนำตัว และพบปะกับประชาชน ในเขตเลือกตั้ง ได้แก่ อำเภอสิงหนคร, สทิงพระ, กระแสสินธุ์ และระโนด
แต่ที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ คือ การเปลี่ยนผู้ลงสมัครกะทันหัน ในเขตเลือกตั้งที่ 3 จังหวัดสงขลา คือ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่ โดยกรรมการบริหารพรรคให้เหตุผลว่ามีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งล่าสุด เจ้าตัวได้โพสต์ ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า ส.ส. ทนายวิรัตน์ กัลยาศิริ มีข้อความระบุ ยืนยันว่าสบายดี หมอยืนยันว่าสามารถลงสมัคร ส.ส. ได้ ผมไม่ได้ขอถอนตัวจากการสมัคร ส.ส. เขต 3 สงขลา แต่ได้ยืนยันกับพรรคว่าขอลงสมัคร ส.ส. สงขลา เขต 3 ที่เดิม ส่วนพรรคจะมีมติอย่างไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้ากระบวนการชอบด้วยกฎหมาย และหลักประชาธิปไตย ผมเคารพ หลังจากโพสต์นี้ หากมีใครยังอ้างด้วยข้อความเท็จว่าผมป่วยจนไม่สามารถลงสมัครได้ หรืออ้างเท็จว่าผมถอนตัวจากการลงสมัคร ส.ส. สงขลา เขต 3 ด้วยความเคารพขอให้หยุดเสีย มิเช่นนั้นผมคงมีความจำเป็นต้องใช้สิทธิในการปกป้องตนเองครับ
อย่างไรก็ตาม ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในส่วนของเขต 3 สงขลา ยังไม่มีผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ มายื่นใบสมัคร ซึ่งมีกระแสข่าวว่า อาจมีการเปลี่ยนตัว ว่าที่ผู้สมัครอีกครั้ง จากนายไพร พัฒโน อดีตนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เป็นพลตำรวจโทสาคร ทองมุณี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว .- สำนักข่าวไทย