รพ.มงกุฎวัฒนะ 1 ก.ย.-ผอ.รพ.มงกุฏวัฒนะ แจงปั้มหัวใจตามมาตรฐานวิชาชีพ ส่วนตับแตก อย่างไรโยนถามนิติเวช
พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ซึ่งเป็น โรงพยาบาล (รพ.) ที่รับตัวผู้ต้องหาที่พยายามผูกคอตายที่ห้องขังดีเอสไอ โพสต์เฟสบุค ชี้แจงกรณีที่มีการสอบถามถึงการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาของดีเอสไอ ซึ่งถูกส่งตัวมากู้ชีพที่โรงพยาบาล ว่า รายละเอียดมีดังนี้ เวลา 01.10 น.วันที่ 30 ส.ค.2559 รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากดีเอสไอว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้รพ.มงกุฎวัฒนะจัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วน
เวลา 01.15 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ไปถึงดีเอสไอและพบว่านายธวัชชัย อยู่ในภาวะวิกฤตแล้วโดยต้องทำการช่วยฟื้นคืนชีพ หรือปั๊มหัวใจทันที จากนั้นได้รีบนำตัวไปรักษาที่รพ.มงกุฎวัฒนะ
ต่อมาเวลา 01.33 น. ชุดแพทย์ฉุกเฉินนำตัวนายธวัชชัย มาถึงห้องฉุกเฉินรพ.มงกุฎวัฒนะ แล้วพยายามปั๊มหัวใจพร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ ณ ห้องฉุกเฉิน แต่คลื่นไฟฟ้าหัวใจของนายธวัชชัยหยุดหลายครั้ง แต่ก็ยังพอกระตุ้นให้หัวใจกลับฟื้นคืนได้ชั่วคราว แต่อาการกลับไม่ฟื้นกลับคืนสภาพที่พ้นภาวะวิกฤต
เวลา 02.40 น.ได้ย้ายนายธวัชชัยจากห้องฉุกเฉินไปยังหน่วยอภิบาลผู้วิกฤต หรือซีซียู ซึ่งอาการของนายธวัชชัย ยังคงเลวร้ายหรือวิกฤตลงอย่างต่อเนื่องจึงต้องทำการปั๊มหัวใจตลอดเวลา แต่ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตไว้ได้ และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 04.45 น. และเวลา 08.15 น.เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิปอเต๊กตึ๊งได้มาเคลื่อนย้ายศพออกจาก รพ.ซึ่งตนทราบจากนักข่าวว่าศพถูกนำไปชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตที่สถาบันนิติเวช
อย่างไรก็ตามมีการสอบถามถึงประเด็นว่า “การปั๊มหัวใจ” เป็นเหตุให้นายธวัชชัย ขาดอ๊อกซิเจนและตับแตก ตกเลือดในช่องท้องจนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตได้หรือไม่ ตนขอชี้แจงว่า
1.ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ได้รับแจ้งจากดีเอสไอว่ามีคนเป็นลมหมดสติ ขอให้จัดชุดแพทย์ฉุกเฉินไปช่วยเหลือด่วน โดยชุดแพทย์ฉุกเฉินไม่ได้รับทราบข้อมูลว่า มีการผูกคอตาย
2.ชุดแพทย์ฉุกเฉิน รพ.มงกุฎวัฒนะ ทำการปั๊มหัวใจที่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ ซึ่งมีการให้อ๊อกซิเจน และช่วยการหายใจ การปั๊มหัวใจ ฯลฯ เพื่อการฟื้นคืนชีพ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่การช่วยฟื้นคืนชีพจะทำให้นายธวัชชัย ขาดออกซิเจน มีแต่ช่วยแก้ไขปัญหาการขาดอ๊อกซิเจน
3.การปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพมีเทคนิคและวิธีการปฏิบัติบริเวณตำแหน่งของช่องทรวงอก เพื่อมีผลต่อหัวใจและปอด ส่วนตับเป็นอวัยวะที่อยู่ในช่องท้องคนละช่อง คนละตำแหน่งกันกับการการปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพ
ทั้งนี้ ช่องทรวงอกและช่องท้องนั้นถูกแบ่งกั้นจากกันด้วยกะบังลม ดังนั้น การปั๊มหัวใจในกระบวนการช่วยฟื้นคืนชีพจึงไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ตับแตกและตกเลือดในช่องท้องได้ ย้ำว่าการช่วยฟื้นคืนชีพเป็นการปฏิบัติที่หัวใจและปอด ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับตับ ดังนั้นนายธวัชชัย ตับแตกจากสาเหตุใดรพ.มงกุฎวัฒนะไม่ทราบ ขอให้ไปสอบถามจากนิติเวชแพทย์ผู้ชันสูตรโดยตรง .-สำนักข่าวไทย