ทำเนียบรัฐบาล 4 ก.พ.-นายกฯกล่าวสุนทรพจน์ย้ำความสำคัญของวัฒนธรรมชาติอาเซียน มุ่งสู่ความเป็นหุ้นส่วน ความเจริญที่ยั่งยืน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษารักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานกล่าวสุนทรพจน์การจัดกิจกรรมการประกาศปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Cultural Year) ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีได้ร่วมชมการแสดงชุดการเฉลิมฉลองปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน 9 ชุด อาทิ การแสดงงิ้วเปลี่ยนหน้ากาก การแสดงโขนตอนพระรามข้ามสมุทร การแสดงหุ่น เป็นต้น พร้อมมอบหนังสือวิวิธอาเซียน(Vivid ASEAN) ฉบับภาษาอังกฤษ ให้แก่ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ คือบรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วัฒนธรรมเปรียบเสมือนรากเหง้าของทุกคนในอาเซียนที่ต้องรักษาและอนุรักษ์วัฒนธรรมเหล่านี้ไว้ให้ได้ โดยอาเซียนถือว่ามีศักยภาพในเรื่องของวัฒนธรรมระดับโลก ซึ่งการที่ไทยรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียนในปีนี้จะได้ขับเคลื่อนการดำเนินการภายใต้แนวคิดหลัก ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน ที่จะสะท้อนความร่วมมือของอาเซียนที่จะร่วมกันสร้างความเจริญเติบโตในทุกมิติ มองไปสู่อนาคตข้างหน้า การร่วมมือกันแก้ไขปัญหาร่วมกัน
“การเริ่มเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีบนพื้นฐานของเอกภาพอาเซียน มุ่งสู่ความเป็นหุ้นส่วนในอนาคต การไว้เนื้อเชื่อใจกันและเคารพซึ่งกันและกัน นำไปสู่การเจริญเติบโตที่ยั่งยืน อาเซียนต้องร่วมกันเตรียมความพร้อมให้กับประชาชนสู่อนาคต สามารถใช้ประโยชน์ความก้าวหน้าให้เต็มศักยภาพ และนอกเหนือจากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเมืองแล้ว ด้านสังคมและวัฒนธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะยึดโยงพลเมืองอาเซียนไว้ด้วยกัน ซึ่งความใกล้ชิดด้านวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น เป็นผลมาจากความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้อาเซียนอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ ซึ่งสอดคล้องกับรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมการเผยแพร่แลกเปลี่ยน ความร่วมมือด้านศิลปวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพของชีวิตประชาชนและสันติภาพความมั่นคงของโลก” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อริเริ่มปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียน เป็นการเสริมสร้างบทบาทการเป็นประธานอาเซียนของไทยในมิติทางวัฒนธรรม เพื่อนำเสนอสู่สายตาชาวโลก ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น นำไปสู่ความก้าวหน้าด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ รวมถึงการท่องเที่ยวต่อไป
ภายหลังกล่าวสุนทรพจน์ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการปีแห่งวัฒนธรรมอาเซียนที่จัดขึ้นในโอกาสที่ไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ โดยจะจัดกิจกรรมหมุนเวียนในแต่ละเดือนตลอดทั้งปีนี้ และเมื่อเดินชมถึงบู๊ธจัดแสดงดนตรีที่ผสมผสานเครื่องดนตรีจากแต่ละชาติในอาเซียน ซึ่งมีระนาดของไทยรวมอยู่ด้วย นายกรัฐมนตรีได้หยุดฟังการบรรเลงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นได้หยิบไม้ตีระนาดมาทดลองตีในเพลงธรณีกรรแสง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขึ้นเวทีร่วมร้องเพลงกับนักร้องนักดนตรี โดยขอร้องเพลง “ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ” ของดา เอ็นโดรฟินจนจบเพลง.-สำนักข่าวไทย
