อายัดศพ “พ่อเลี้ยงแอ๊ด” เจ้าของปางช้างแม่สาผ่าพิสูจน์

เชียงใหม่ 2 ก.พ.- คดีพ่อเลี้ยงปางช้างแม่สาเชียงใหม่เสียชีวิต ล่าสุดตำรวจอายัดศพให้นิติเวชผ่าชันสูตร ขณะที่ลูกสาวคนโตเข้าให้ปากคำตำรวจเพิ่ม เพราะต้องการทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อให้แน่ชัด


บ่ายเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) นางอัญชลี กัลป์มาพิจิตร อายุ 51 ปี บุตรสาวคนโตของนายชูชาติ กัลป์มาพิจิตร หรือ “พ่อเลี้ยงชูชาติ” หรือ “พ่อเลี้ยงแอ๊ด” เจ้าของปางช้างแม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่มีทรัพย์สินนับพันล้านบาท และเสียชีวิตในบ้านพักอำเภอแม่ริมวัย 79 ปี ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งให้ตำรวจนำศพของพ่อไปผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต เพราะลูกหลานบางส่วนยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ตำรวจได้เดินทางไปที่โบสถ์ “เซนต์ นิโคลัส บ้านโต้งหลวง” ต.แม่แรม อ.แม่ริม เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับญาติ รวมทั้งภรรยาคนปัจจุบันของผู้ตาย เกี่ยวกับขั้นตอนการอายัดศพของผู้ตายไปตรวจพิสูจน์ตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าเกิดการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยมีการนำท่อนไม้และรถยนต์มาจอดขวางถนน จึงทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงเจตนาในการขัดขวางการทำหน้าที่ตำรวจ


นางอัญชลี เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตำรวจได้นำศพพ่อไปชันสูตรที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ได้แล้ว ซึ่งต้องรอว่าผลการชันสูตรจะออกมาอย่างไร  แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับนิติเวชฯ พบว่าการที่คนตายแล้วและมีการฉีดสารฟอร์มาลีนเข้าไปในร่างกายหลายวัน ผลอาจออกมาไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ทั้งนี้เพื่อให้ถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย และยืนยันถึงสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อที่ถูกต้อง เนื่องจากพบว่ามีการแจ้งการเสียชีวิตล่าช้า จึงรู้สึกติดใจในสาเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางมายัง สภ.แม่ริม พร้อมกับเปิดเผยว่า คดีนี้เป็นที่สนใจของสังคม จึงให้พนักงานสอบสวนดำเนินการอย่างละเอียด เพื่อตอบสังคมให้ชัดว่าการเสียชีวิตของ “พ่อเลี้ยงชูชาติ” เสียชีวิตตามธรรมชาติ หรือมีเหตุอื่นใดที่ทำให้เสียชีวิต ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องทำตามขั้นตอนด้วยผลการตรวจชันสูตรศพ ส่วนเรื่องเกี่ยวมรดกหรือพินัยกรรมต่างๆ นั้น ตำรวจไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะเป็นเรื่องทางแพ่งและเป็นเรื่องภายในครอบครัว ส่วนที่ทนายความของฝั่งครอบครัวติดใจการทำงานของตำรวจนั้น ยืนยันว่าตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.วิอาญาฯ ทุกขั้นตอน ซึ่งเป็นหน้าที่โดยตรง

สำหรับนายชูชาติฯ หรือ “พ่อเลี้ยงแอ๊ด” เป็นผู้ก่อตั้งปางช้างแม่สา ปางช้างเก่าแก่ของเชียงใหม่มากว่า 40 ปี จนมีช้างมากกว่า 80 เชือก กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของเชียงใหม่ และมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐี มีมูลค่าทรัพย์สินนับพันล้านบาท ก่อนล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว และเสียชีวิตเมื่อ 5 วันที่แล้ว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก