กทม.ยกเลิกพ่นน้ำหวานแก้ปัญหาฝุ่นพิษ พ่นน้ำเปล่าแทน

สำนักข่าวไทย 30 ม.ค.- เช้าวันพรุ่งนี้ กทม.ยกเลิกภารกิจพ่นของเหลวจากโมลาสหรือกากน้ำตาล จะใช้เพียงน้ำเปล่า เพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5  


จากกรณีผู้ว่าฯ กทม.แถลงเตรียมใช้มาตรการในการแก้ไขปัญหาลดฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยจะร่วมกับชมรมโดรน ของจังหวัดนครราชสีมา นำโดรนขนาดเล็ก50 ตัว พร้อมคนบังคับ 50 คน ที่สามารถบรรทุกน้ำได้ตัวละ10 ลิตรมาพ่นเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง โดยน้ำที่จะนำมาใช้ในการลดปัญหาฝุ่นละออง จะใช้โมลาสหรือกากน้ำตาล ที่สามารถจับค่าฝุ่นละอองได้ดีกว่านั้น 

นายชาตรี วัฒนเขจร ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังจากที่มีการพูดคุยหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทีมงานเอกชนจากจังหวัดนครราชสีมาที่จะมาช่วยบินโดรนในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) สรุปจะยกเลิกการพ่นของเหลวจากโมลาส โดยจะใช้น้ำเปล่าแทนแม้ว่าจะมีการระบุคุณสมบัติว่าโมลาส สามารถจับฝุ่นละอองในอากาศได้ดีกว่าก็ตาม เนื่องจากลักษณะการบินโปรยละอองโมลาสจะต้องบินในพื้นที่ต่ำจึงจะได้ผลแต่ด้วยสภาพอากาศฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯ อยู่ในพื้นที่ค่อนข้างสูงจึงเกรงว่าจะส่งผลกระทบกับประชาชนในวงกว้างบวกกับจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีผลงานการวิจัยจากหน่วยงานใดว่า โมลาสสามารถจับฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ได้จึงสรุปยกเลิกการใช้โมลาสโดยจะใช้น้ำเปล่าแทน


สำหรับภารกิจการบินโดรนจะยังมีตามปกติ ในวันพรุ่งนี้ 31 มกราคม และศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ โดยวันแรกพรุ่งนี้นัดหมายเริ่มเวลา 08.00 น.ที่ลานคนเมืองเพื่อกำหนดจุดว่าทีมไหนจะบินไปที่จุดใด โดยในเบื้องต้นแจ้งฐานการบินโดรนไว้ 6 จุด ประกอบด้วย จุด 1 ลานคนเมือง จุด 2 วัดพระศรีมหาธาตุ (บางเขน) จุด 3 ฐานบิน ม.เกษตร จุด 4 ฐานบินสวนจตุจักร (บินบริเวณห้าแยกลาดพร้าว) จุด 5 ฐานบินสวนลุมพินี (บินบริเวณพระราชานุสาวรีย์ ร.6 และถนนพระราม 4)  จุดที่ 6 ฐานบินสะพานพระราม 9 ฝั่งพระนคร เขตบางคอแหลม

ส่วนวิธีการการฉีดพ่นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ ระดับที่ 1 คือบนสุด โดรนจะบินบรรทุกน้ำได้ประมาณ 10 ลิตร ขึ้นไปฉีดพ่นละอองน้ำ ระยะบิน จะบินประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของพื้นที่ ซึ่งโดรนจะบินได้นานประมาณ 20 นาที ก่อนจะลงมาเปลี่ยนแบตเตอรี่ และเติมน้ำ

ระดับที่ 2 รถน้ำจากสำนักสิ่งแวดล้อมและ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะฉีดละอองฝอยขึ้นไป และระดับที่ 3 ทีมเจ้าหน้าที่จากเขต จะกวาดและล้าง ทำความสะอาดตามอีกที .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว