บล.ภัทรคาดเลือกตั้งกระทบเศรษฐกิจครึ่งปีแรก

กรุงเทพฯ 30 ม.ค. – บล.ภัทรชี้ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้ง กระทบเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกชะลอตัว บวกแรงกดดันจากสงครามการค้ากระทบจีดีพีไทยปีนี้โตร้อยละ 3.7 


นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าทีมวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน ) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตร้อยละ 3.7 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อน  โดยปัจจัยสำคัญ คือ ความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้จะมีการประกาศวันเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม 2562 แล้ว แต่ความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากกฎการเลือกตั้ง การยอมรับผลการเลือกตั้ง ระยะเวลาระหว่างวันเลือกตั้งกับวันที่มีรัฐบาลใหม่ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลใหม่อาจจัดตั้งได้ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ช่วงเวลาสุญญากาศดังกล่าวอาจทำให้นักลงทุนและผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจ และทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งแรกปีนี้ชะลอตัวได้ อย่างไรก็ตาม หากการเลือกตั้งผ่านไปได้ด้วยดีมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อยมีการส่งต่อนโยบายระหว่างรัฐบาลปัจจุบันกับรัฐบาลใหม่ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง และคาดว่าการลงทุนภาคเอกชนจะเร่งตัวขึ้นตามการลงทุนภาครัฐ มีการกระตุ้นทางการคลังจะช่วยลดทอนผลกระทบด้านลบจากปัจจัยภายนอกได้บางส่วน

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม คือ แนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกและการท่องเที่ยวไทย ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในปีก่อน การส่งออกโตชะลอลงอยู่ที่ร้อยละ 3-4 ขณะที่การท่องเที่ยวเติบโตลดลงเช่นกัน คาดว่าขยายตัวไม่ถึงร้อยละ 10 ส่วนการบริโภคในประเทศขยายตัวไม่มาก เพราะได้รับแรงกดดันจากรายได้ภาคเกษตรที่ยังหดตัวและหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่วนอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังต่ำ


ด้านนายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงิน เกียรตินาคินภัทร กล่าวว่า ปีนี้ตั้งเป้าสินเชื่อโตร้อยละ 8 ลดลงจากปีก่อนที่โตร้อยละ18.5  เนื่องจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคยังมีสัญญาณไม่ดี ประกอบกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ และอาจมีการควบคุมสินเชื่อประเภทอื่นต่อไป จึงตั้งเป้าการขยายตัวของสินเชื่ออย่างระมัดระวัง และคาดส่วนต่างดอกเบี้ยปีนี้อยู่ที่ร้อยละ 4.5-4.7 ลดลงจากปีก่อนที่ร้อยละ 5 และจะควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้ต่ำกว่าร้อยละ 4 จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 4.1 ขณะเดียวกันจะเร่งธุรกิจ Private Bank ต่อยอดจากสินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำ (AUA) ที่มีอยู่กว่า 650,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี