ทำเนียบฯ 2 ก.ย.- อดีตผู้ใหญ่บ้านภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ พร้อมตัวแทนชาวไทยภูเขาในพื้นที่ ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอความเป็นธรรมกรณีสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบนภูทับเบิก ทำให้ชาวไทยภูเขาในพื้นที่เดือดร้อน มีหนี้สินจำนวนมาก
นายมา วงศ์ทับเบิก อดีตผู้ใหญ่บ้านภูทับเบิก พร้อมด้วยตัวแทนชาวไทยภูเขาในพื้นที่ ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ รวบรวมรายชื่อชาวไทยภูเขาในพื้นที่กว่า 300 คน เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรม กรณีการสั่งรื้อถอนสิ่งก่อสร้างและรีสอร์ทบนภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากการรื้อถอนทำให้ชาวไทยภูเขาได้รับผลกระทบจากการปลูกพืชล้มลุกอย่างกะหล่ำปลีแล้วจำหน่ายไม่ได้ ทั้งที่การปลูกพืชนี้ ชาวไทยภูเขาได้ไปกู้ยืมเงินลงทุนจากสถาบันการเงิน จึงทำให้มีภาระหนี้สินจำนวนมาก อีกทั้งชาวไทยภูเขากว่าร้อยละ 50 ที่ได้ร่วมลงรายชื่อในหนังสือก็ได้ก่อสร้างรีสอร์ทบนภูทับเบิก จึงได้รับผลกระทบโดยตรง
นายมา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ภาครัฐเคยลงพื้นที่ภูทับเบิก เพื่อขอให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันส่งเสริมการท่องเที่ยวและจัดระเบียบพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านทุกคนก็ปฏิบัติตาม แต่ไม่ทราบว่าเหตุใด หัวหน้า คสช.จึงใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งการรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง โดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐมาเจรจาก่อนการรื้อถอนด้วย ดังนั้น จึงขอให้หยุดการรื้อถอน เพื่อป้องกันปัญหาบานปลาย
นายมา กล่าวว่า ขอให้มีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานนำข้อเท็จจริงใหม่ขึ้นสู่ศาล และขอดำเนินคดีใหม่ รวมทั้งเร่งจัดให้มีคณะกรรมการตรวจสอบว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐได้ดำเนินการรื้อถอนถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่ พร้อมขอให้ชดใช้ค่าเสียหายและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐครั้งนี้ รวมถึงขอให้เร่งจัดตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหา 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะกรรมการตัวแทนชาวบ้านภูทับเบิก คณะกรรมการเจ้าหน้าที่รัฐ ฝ่ายปกครองส่วนกลาง และคณะกรรมการฝ่ายความมั่นคงจากกองทัพภาคที่ 3.-สำนักข่าวไทย