สนง.สลากฯ แจงพิมพ์สลากรวมชุดอยู่ขั้นทดลอง

กรุงเทพฯ 27 ม.ค. – สำนักงานสลากฯ แจงพิมพ์สลากรวมชุดแบบคละเลข อยู่ขั้นทดลอง ไม่เลือกปฏิบัติ


สืบเนื่องจากการที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะดำเนินการจัดพิมพ์สลากด้วยระบบการพิมพ์รวมชุด โดยผู้จำหน่ายแต่ละรายได้รับสลาก 5 เล่มเช่นเดิม แต่สามารถจำหน่ายสลากชุดได้ 200 ชุด ๆ ละ 2 ใบ สามารถแยกขายเป็นใบเดี่ยวได้ ภายหลังจากการแถลงข่าวดังกล่าวได้รับความสนใจจากประชาชน ผู้ซื้อและผู้ขายสลาก ตลอดจนนักวิชาการอย่างกว้างขวาง  โดยบางส่วนยังมีประเด็นความเห็นว่าการจัดพิมพ์แบบใหม่นี้น่าจะยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เนื่องจากยังมีการจัดพิมพ์สลากแบบเดิมให้กับตัวแทนจำหน่ายในระบบโควตาอยู่ ไม่ได้เป็นการจัดพิมพ์แบบใหม่เหมือนกันทั้งหมด และมีความกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดพิมพ์นั้น 

พ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ชี้แจงว่า ปัจจุบันสำนักงานฯ พิมพ์สลากออกจำหน่ายงวดละ 900,000 เล่ม แบ่งออกเป็นสลากในระบบตัวแทนจำหน่าย ซึ่งมีผู้มารับไปจำหน่ายเป็นประจำงวดละ 330,000 เล่ม และสลากในระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ซึ่งพิมพ์ตามจำนวนที่มีผู้สั่งจอง อีกงวดละ 570,000 เล่ม 


ที่ผ่านมา การพิมพ์สลากเป็นการพิมพ์แบบเรียงตัวเลขไม่มีการคละหมายเลขทั้ง 900,000 เล่ม จำหน่ายทั้ง 2 ระบบ ทำให้เกิดการรวมชุดง่ายขึ้นเป็นสาเหตุของการจำหน่ายสลากชุดราคาสูง และทำให้สลากแบบใบเดี่ยวหายไปจากตลาด เมื่อสำนักงานฯ ได้นำระบบพิมพ์สลากแบบคละเลขในเล่ม เพื่อให้ผู้จำหน่ายที่รับสลากจากสำนักงานสามารถไปจำหน่ายแบบเลขชุดและแบบใบเดี่ยวตามสูตร 2-2-1 ได้ เนื่องจากสำนักงานฯ ได้พิมพ์สลากล่วงหน้าในระบบตัวแทนจำหน่ายไว้แล้ว เพราะมีตัวแทนจำหน่ายที่รับสลากแน่นอนและต้องจัดส่งให้ทั่วประเทศ ส่วนระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ต้องพิมพ์ตามคำสั่งซื้อ คำสั่งจอง ไม่สามารถพิมพ์ล่วงหน้าได้ ดังนั้น เมื่อนำระบบการพิมพ์คละเลขในเล่มมาทดลองใช้ เพื่อแก้ไขปัญหารวมชุดใหญ่ จึงใช้กับระบบซื้อ-จองล่วงหน้า ซึ่งมีสัดส่วนสลากมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนสลากทั้งหมด และหากได้ผล คือ มีการขายสลากตามราคามากขึ้นก็จะพิจารณาในส่วนของระบบโควตาต่อไป 

พ.ต.อ.บุญส่ง กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญครั้งนี้สำนักงานต้องคำนึงถึงผลกระทบของระบบทั้งหมดด้วย จึงจำเป็นต้องขอทดลองกับระบบซื้อ-จองล่วงหน้าก่อน สำนักงานฯ ไม่ได้เลือกปฏิบัติตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ขณะเดียวกันจะเพิ่มมาตรการการตรวจผู้จำหน่ายทั้ง 2 ระบบอย่างเข้มข้นขึ้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตัดโควตาและระงับการซื้อจองต่อไป 

ทั้งนี้ การจัดพิมพ์เป็นแบบคละตัวเลขภายในเล่ม ทำให้การรวมชุดเป็นไปได้ยากขึ้นมาก และประชาชนผู้ซื้อสลากสามารถซื้อสลากชุดและสลากใบเดี่ยวจากผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้า ได้ทั้งสลากแบบรวมชุด 2 ใบ และสลากแบบใบเดี่ยว 1 ใบ เพราะไม่ต้องไปซื้อจากพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป ส่วนประเด็นข้อกังวลใจเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดพิมพ์นั้น ขอยืนยันว่าระบบการพิมพ์ของสำนักงานฯ มีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลอย่างครบถ้วนเป็นไปตามมาตรฐานสากลทุกประการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง