กฤษฎาสั่งกรมชลฯชี้แจงผู้ค้านสร้าง 4 โครงการแก้ปัญหาน้ำ

กรุงเทพฯ 26 ม.ค.-รัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งการด่วนที่สุดให้ปลัดกระทรวงฯ และกรมชลประทานเร่งชี้แจงข้อมูล 4 โครงการแก้ปัญหาน้ำที่นครศรีธรรมราชและพัทลุงให้กลุ่มผู้คัดค้าน ระบุ โครงการต่างๆ เกิดจากความต้องการของประชาชน และขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสำรวจ


จากกรณีมีกลุ่มประชาชนจากจังหวัดนครศรีธรรมราชและพัทลุง คัดค้านโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งรวมทั้งการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดรวม 4 โครงการ โดยได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และนายกรัฐมนตรี และส่งตัวแทนกลุ่มไปชี้แจงข้อมูลเหตุผลการคัดค้านโครงการผ่านทางสถานีโทรทัศน์ระหว่างรอคำตอบจากหน่วยราชการด้วยนั้น นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการด่วนที่สุดถึงปลัดกระทรวงฯ อธิบดีกรมชลประทาน และคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์จังหวัด(อพก.) ชี้แจงผู้คัดค้านให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการทั้ง 4 แห่ง เกี่ยวกับที่มาหรือต้นเรื่องของการจัดทำโครงการว่า เกิดจากปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำแล้ง และได้ร้องเรียนขอให้ทางราชการแก้ไขปัญหาและพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าว ดังนั้นโครงการทั้ง 4 แห่งจึงไม่ใช่โครงการที่กรมชลประทานริเริ่มขึ้นมาเองหรือจัดทำฝ่ายเดียวอย่างไม่มีเหตุผลและความจำเป็นแต่อย่างใด

  โครงการทั้ง 4 แห่งส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนแรกคือ การลงไปสำรวจบริเวณพื้นที่โครงการให้ชัดเจนก่อนเพื่อนำข้อมูลพื้นที่จริงมาเปรียบเทียบกับผลการศึกษาที่ได้ทำไว้แล้ว หากผลการสำรวจพื้นที่จริงมีปัญหาที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนจะได้ปรับแก้ไข ก่อนลงมือดำเนินการก่อสร้างจริงเช่น การปรับเปลี่ยนบริเวณก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศจริง การลดหรือเพิ่มพื้นที่ก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการให้มากที่สุด หากประชาชนรายใดหรือกลุ่มใดมีข้อมูลที่ต้องการให้กรมชลประทานรับไปแก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนกระทั่งการระงับโครงการสามารถยื่นข้อมูลมาได้เพื่อกรมชลประทานจะได้นำมาพิจารณาตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ โดยโครงการชลประทานและอพก.ทั้ง 2 จังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชนทั้งในพื้นที่ อีกทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้สนใจรับทราบการทำงานของหน่วยราชการต่างๆ ว่าดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วทุกประการ แต่หากประชาชนยังเห็นว่าการดำเนินการของหน่วยราชการนั้นผิดหรือขัดกับกฎหมาย ตลอดจนระเบียบราชการสามารถยื่นคำคัดค้านต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งหากเห็นว่า จากการกรมชลประทานลงไปสำรวจพื้นที่เบื้องต้นจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเสียหาย จนไม่สามารถเยียวยาแก้ไขในภายหลังได้ ประชาชนผู้คัดค้านสามารถยื่นคำขอต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการดำเนินการของกรมชลประทานไว้ก่อนในระหว่างพิจารณาคดีได้


นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกรณีที่ศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งจะมีผลให้ยุติงานทุกอย่างระหว่างพิจารณาคดีแล้ว ศาลปกครองจะไต่สวนต่อไปเพื่อหาข้อเท็จจริงว่า กรมชลประทานทำถูกต้องตามกฎหมายและหรือระเบียบราชการหรือไม่ ถ้าผลการไต่สวนปรากฎว่า กรมชลประทานทำไม่ถูกต้อง ศาลก็จะมีคำพิพากษาให้แก้ไขหรือยกเลิกโครงการได้ ดังที่รัฐบาลสมัยหนึ่งจะแปรรูปกฟผ. จากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน เมื่อมีการฟ้องร้องศาลปกครอง แม้จะมีการอ้างต่อศาลว่า ได้ทำทุกกระบวนการครบถ้วนตามกฎหมาย แต่ศาลได้ไต่สวนแล้วพบว่า การทำประชาพิจารณ์กรณีดังกล่าว ทำอย่างไม่ถูกต้อง จึงมีคำสั่งเพิกถอนการแปรรูปกฟผ. เนื่องจากทำไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งทำให้จนบัดนี้กฟผ. ยังคงเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่ ดังนั้นกลุ่มผู้คัดค้านต้องการให้ยุติทั้ง 4 โครงการ สามารถยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้ แล้วระหว่างที่งานทุกอย่างยุติระหว่างพิจารณาคดี พร้อมจะให้ผู้คัดค้านและประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสียร่วมสำรวจข้อมูลทุกด้านกับกรมชลประทาน ทั้งมิติของระบบนิเวศ วิถีชุมชน แนวทางการแก้ปัญหา หากพบว่า ประเด็นใดขัดกฎหมายหรือไม่ถูกต้องเหมาะสม สามารถชี้ให้ภาครัฐแก้ไขได้ทันที

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การดำเนินการสำรวจพื้นที่เพื่อจัดทำโครงการที่ผ่านมา เป็นไปตามข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายทุกขั้นตอน เมื่อมีประชาชนส่วนหนึ่งคัดค้าน ได้มอบหมายให้ทั้งรองอธิบดี ผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งโครงการชลประทานในพื้นที่เข้าไปรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจถึงที่มาของการจัดทำโครงการว่า ไม่ได้มาจากการริเริ่มของกรมชลประทาน แต่มาจากข้อร้องเรียนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งในพื้นที่ ทั้งนี้ยืนยันว่า การดำเนินการทั้ง 4 โครงการ ส่วนใหญ่อยู่ในขั้นสำรวจพื้นที่โครงการให้ชัดเจนก่อน แล้วจะนำข้อมูลโดยละเอียดมาเปรียบเทียบกับผลการศึกษาที่ได้ทำไว้แล้ว หากผลการสำรวจพื้นที่จริงมีปัญหาใดจะได้แก้ไขต่อไป ได้แก่ การปรับเปลี่ยนบริเวณก่อสร้างให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศจริง การลดหรือเพิ่มพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากโครงการมากที่สุด  ขณะนี้ กำลังรวบรวมผลการสำรวจพื้นที่ ผลการศึกษาทางวิชาการ ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินการที่เป็นไปตามกฎหมายครบถ้วนเพื่อชี้แจงตามที่กลุ่มผู้คัดค้านมีข้อสงสัยตามหนังสือที่ส่งถึงรัฐมนตรีเกษตรฯ และนายกรัฐมนตรี เพื่อให้เกิดความเข้าใจกันทุกฝ่ายภายในวันนี้(26 ม.ค.)-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

ทบ.ส่งทหารช่างเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา

20 ก.ค.- ทหารช่างปฏิบัติภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดพื้นที่ช่องบก ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่กองทัพบกเตรียมมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม จากกรณีทหารไทยประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บาดเจ็บ 3 นาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ล่าสุดเช้านี้ (20 ก.ค. 68) กองทัพภาคที่ 2 เสริมกำลังทหารช่างลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจพื้นที่และเก็บกู้ทุ่นระเบิดตลอดแนวชายแดน โดยใช้ยุทโธปกรณ์หนัก รถแทรกเตอร์หุ้มเกราะ ชุดตรวจค้นทุ่นระเบิดชำนาญการ กำลังชุดทหารช่างตรวจค้นกวาดล้างทุ่นระเบิด (Mine Clearing) เขตทางพื้นที่สงสัยให้ปลอดภัย พร้อมใช้รถโกยตัก ถางขุดตอ และรถถากถางติดตั้งเกราะเหล็กป้องกันพลขับในการทำงานในพื้นที่เสี่ยงภัย ปฏิบัติการดังกล่าว นอกจากดูแลความปลอดภัยของกำลังพลที่จะออกลาดตระเวนในพื้นที่เขตแดนไทยแล้ว ยังเป็นการเก็บหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่ากัมพูชามีพฤติการณ์ที่ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล แม้ทางฝ่ายกัมพูชาจะไม่ยอมรับ แต่กระทรวงการต่างประเทศ จะทำหนังสือเพื่อประท้วงอย่างเป็นทางการผ่านสหประชาชาติ (UN) และทางกองทัพบก จะมีมาตรการตอบโต้ทางทหารอย่างเหมาะสม.-สำนักข่าวไทย

พฐ.เตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา

20 ก.ค.- เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้โรงงานแปรรูปยางพารา จ.บุรีรัมย์ เบื้องต้นไม่มีผู้บาดเจ็บ คาดเสียหายหลายสิบล้านบาท เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานรับซื้อและแปรรูปยางพาราขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ริมถนนสาย 24 โชคชัย-เดชอุดม ตำบลโคกม้า อ.ประโคกชัย จ.บุรีรัมย์ โดยต้นเพลิงเป็นโกดังเก็บยางพาราอัดแท่ง จัดว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงลุกไหม้รวดเร็วและรุนแรง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนเกิดเหตุช่วงแรก พนักงานช่วยกันดับแต่เอาไม่อยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ ตำรวจ สภ.ประโคนชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ลงพื้นที่ตรวจสอบและประสานรถดับเพลิงกว่า 20 คัน เข้าฉีดสกัดนานกว่า 2 ชั่วโมง จึงคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอดป้องกันไม่ให้ไฟปะทุลามไปจุดอื่นในโรงงาน พร้อมเคลื่อนย้ายถังแก๊ส ถังน้ำมัน จากอาคารใกล้เคียงไปไว้ยังจุดปลอดภัย เบื้องต้นไม่มีพนักงานได้รับบาดเจ็บ ด้านนายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าแม้จะควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่รถดับเพลิงก็ยังต้องฉีดน้ำเพื่อหล่อความเย็นจนกว่าไฟจะดับสนิท ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่ทราบ ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ สำหรับมูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างการประเมิน คาดหลายสิบล้านบาท ทั้งนี้ โรงงานดังกล่าวเคยเกิดเหตุไฟไหม้มาแล้ว เมื่อปี 63 -สำนักข่าวไทย

จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือน “ตาเมือนธม”

สุรินทร์ 20 ก.ค.- จับตา! กัมพูชาพาทัวร์เขมรเยือนปราสาท “ตาเมือนธม” ด้านทหารไทย-ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไทยใกล้ชิด บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงวันหยุดที่ปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ ถูกจับตามองเป็นพิเศษ หลังมีรายงานว่าทางกัมพูชาเตรียมเกณฑ์นักท่องเที่ยวชาวเขมรขึ้นมาเยือนปราสาทตาเมือนธม ซึ่งขณะนี้ทราบว่า มวลชนมาด้วยรถโดยสารประจำทางของฝั่งกัมพูชาเกือบ 23 คันรถ โดยจอดอยู่ข้างล่างฝั่งกัมพูชาและเริ่มทยอยขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศภายในตัวปราสาทฯ ยังคงเนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งไทยและกัมพูชา ท่ามกลางการดูแลอำนวยความสะดวกของเจ้าที่ทหารไทยเป็นอย่างดี ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้นแต่อย่างใด -สำนักข่าวไทย

Vietnam's Halong Bay boat disaster

พายุ “วิภา” ทำเรือท่องเที่ยวล่มในเวียดนาม

ฮานอย 20 ก.ค.- เกิดอุบัติเหตุเรือนักท่องเที่ยวล่มในอ่าวฮาลองหรือฮาลองเบย์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 38 คน และยังไม่พบตัวอีก 5 คน หนังสือพิมพ์วีเอ็นเอ็กซ์เพรสส์ของเวียดนามรายงานว่า เรือท่องเที่ยวชื่อวันเดอร์ซี (Wonder Sea) พลิกคว่ำในอ่าวฮาลองเมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เป็นช่วงที่พายุโซนร้อนวิภา (Wipha) เคลื่อนตัวข้ามทะเลจีนใต้เข้าใกล้เวียดนาม มีรายงานกระแสลมแรง ฝนตกหนัก และฟ้าผ่าในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุบนเรือมีชาวเวียดนามทั้งหมด 53 คน เป็นลูกเรือ 5 คน และผู้โดยสาร 48 คน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากกรุงฮานอย ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวฮาลองไปทางตะวันตกราว 165 กิโลเมตร และในจำนวนนี้เป็นเด็ก 20 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้ 10 คน และพบศพใกล้จุดที่เรืออับปาง โดยพบศพเด็กแล้ว 8 คน และยังคงค้นหาผู้สูญหายอยู่ 5 คน ท่ามกลางฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหาและกู้ภัย นายกรัฐมนตรีฝั่ม มิงห์ […]