ก.คลัง 23 ม.ค – คลังเพิ่มมาตรการอำนวยความสะดวกโครงการส่งเสริมการชำระซื้อสินค้าและบริการช่วงตรุษจีน เปิดให้ผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกธนาคารและบัญชีบัตรเดบิตที่ใช้จ่ายสูงสุดไม่เกิน 10 บัญชี ขณะนี้มีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 7,000 ราย
นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงร่วมกับสมาคมธนาคารไทย เกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมการชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการ โดยจะมีการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้จับจ่ายใช้สอยที่ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2562 หรือช่วงเทศกาลตรุษจีน ผู้ใช้จ่ายจะได้รับการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มคืนร้อยละ 5 จากปกติร้อยละ 7 ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะชดเชยภาษีให้แก่การใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตหรือคิวอาร์โค้ด คนละไม่เกิน 1,000 บาท คำนวณสูงสุดจากยอดการซื้อสินค้าและบริการ 21,400 บาท
ทั้งนี้ จากเดิมผู้เข้าร่วมโครงการลงทะเบียน 1 คน สามารถเลือก 1 ธนาคาร และ 1 บัญชี วันนี้กระทรวงการคลังได้เพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกแก่ผู้สนใจมาตรการ โดยผู้ลงทะเบียนสามารถเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตหรือคิวอาร์โค้ดเช่นเดิม แต่ผู้ลงทะเบียน 1 คน สามารถใช้บัญชีได้สูงสุดไม่เกิน 10 เลขที่บัญชี เชื่อว่าจะเพิ่มช่องจับจ่ายใช้สอยตามมาตรการดังกล่าว
ขณะที่ปัจจุบัน ผอ.สศค.ระบุว่ามีผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ 65 ราย 15,000 สาขา ขณะที่มีประชาชนลงทะเบียนขอรับสิทธิ์โครงการประมาณ 7,000 ราย ส่วนประเด็นว่าการต้องลงทะเบียนเป็นปัจจัยให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการน้อยหรือไม่นั้น การลงทะเบียนเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่จำเป็นที่ผู้ลงทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังย้ำว่าขอให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมลงทะเบียนได้ถึงวันที่ 31 มกราคมนี้ ผ่านเว็บไซต์ www.epayment.go.th ตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนมากกว่า 100,000 รายเข้าร่วมโครงการ โดยการใช้จ่ายในโครงการจะครอบคลุมการซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่มไม่รวมสินค้าสุราและยาสูบ.-สำนักข่าวไทย