“คุณหญิงสุดารัตน์” จี้นายกฯ กำหนดวันเลือกตั้งให้ชัด ยันหนุน ชัชชาตินั่งนายกฯ พร้อมเปิด3รายชื่อหลังรู้วันเลือกตั้ง จะจัดให้ไม่ผิดหวัง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ตลาดดินแดงว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่สะท้อนปัญหาปากท้องให้ ต้องเร่งแก้ไข เอาจริงเอาจังและฝากความหวังไว้ที่เพื่อไทยกับการเลือกตั้งครั้งนี้ และยังมีประชาชนหลายคนที่มาร้องไห้ บอกทนไม่ไหวกับปัญหานี้แล้ว รวมถึงปัญหายาเสพติดที่ต้องมีการปราบปรามจริงจัง
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำถึงความชัดเจนเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งว่าขึ้นอยู่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าจะกำหนดว่าเป็นวันใด หากอ้างว่าเป็นหน้าที่ของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. )รัฐบาลก็ควรประกาศออกมาเพื่อให้ กกต. เตรียมการได้ทัน และมั่นใจว่า การกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อความรู้สึก ทั้งในแง่เศรษฐกิจ ประชาชนและนักลงทุนจะเชื่อมั่น เพราะขณะนี้ยังไม่ชัดเจนและไม่มั่นใจว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนใด แม้มีการคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม แต่ในเดือนกุมภาพันธ์คงไม่สามารถประกาศเลือกตั้งได้แล้ว
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่าส่วนตัวสนับสนุนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีความเหมาะสม และส่วนตัวมั่นใจจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะตนจะทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้จัดการทีมวางนโยบายให้พรรค ส่วนจะเปิดรายชื่อเมื่อใดนั้นต้องรอให้วันเลือกตั้งชัดเจนก่อน ส่วนจะมีรายชื่อของตนเป็นรายชื่อที่2 หรือ 1 ใน 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรคหรือไม่นั้นจะบอกอีกครั้ง แต่ยืนยันจะจัดให้ทุกคนไม่ผิดหวัง
อย่างไรก็ตามเช้าในวันนี้ (20 ม.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมด้วยนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5 (ดินแดง-ห้วยขวาง) ลงพื้นที่ตลาดกลางดินแดง ซอยประชาสงเคราะห์ เพื่อพบปะ รับฟังปัญหาจากพ่อค้า-แม่ค้า และประชาชนที่มาจ่ายตลาดในช่วงเช้าจากนั้น ได้มาเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5 (ดินแดง-ห้วยขวาง) พรรคเพื่อไทย ที่ซอยรัชดานิเวศน์ แยก 1/5 พร้อมปราศรัยขอการสนับสนุนกับประชาชน และยังย้ำด้วยว่า ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา สามารถลงพื้นที่พบประชาชนได้อย่างยากลำบาก เพราะถูกติดตามจากผู้มีอำนาจติดตาม แต่เพื่อไทยก็พร้อมเต็มที่สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น เพราะถือเป็นการกำหนดชะตาของประเทศ.สำนักข่าวไทย