กรมศุลกากรแจงเหตุกักรถเมล์เอ็นจีวี

กรุงเทพฯ  6 ธ.ค. –  กรมศุลกากรพบข้อสงสัยรถเมล์เอ็นจีวี อาจไม่ได้ผลิตในมาเลเซีย พบเอกสารนำเข้าจากจีน  หากบริษัทเอกชนแจงข้อสังสัย วางแบงก์การันตีตามมูลค่ารถนำรถออกไปวิ่งให้บริการได้


นายชัยยุทธ คำคุณ รองอธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร กล่าวว่า  การสำแดงนำเข้ารถโดยสารที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (เอ็นจีวี) ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หลังจากบริษัท เบสทริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลรถเมล์  และได้มอบหมายให้บริษัท ซุปเปอร์ซาร่า เป็นผู้แทนนำเข้าและยื่นสำแดงสินค้านำเข้ารถโดยสารเอ็นจีวี 2 ล็อต  ครั้งแรกนำเข้า 1 คัน  เอกสารส่งออกรถเมล์เอ็นจีวีจากประเทศจีนวันที่ 28 ตุลาคม และส่งมายังประเทศมาเลเซียวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 จากนั้นส่งรถยนต์สำเร็จรูปทั้งคันมายังท่าเรือแหลมฉบังวันที่ 30 พฤศจิกายน 2559 โดยเป็นเอกสารตู้คอนเทนเนอร์จากจีนและมาเลเซียเป็นหมายเลขเดียวกันกับที่ส่งมาไทย จึงเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงอากรนำเข้า

หลังจากนั้นได้ส่งรถเมล์ครั้งที่ 2 จำนวน 99 คัน และนำเข้ามายังท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา ด้วยการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7  เรียบร้อยแล้ว  แต่พิธีการทางศุลกากรมีข้อสงสัยพบเส้นทางนำเข้าลักษณะเดียวกัน จึงไม่อนุญาตให้นำรถออกจากท่าเรือ เนื่องจากมีการส่งออกจากจีนมายังมาเลเซียและส่งต่อมาไทย หวังขอรับสิทธิ์จากเอกสาร From D  เป็นหนังสือรับรองที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากร เพื่อยกเว้นภาษีเมื่อมีถิ่นกำเนิดการผลิตจากอาเซียน จึงตั้งข้อสงสัยว่ารถเมล์ดังกล่าวอาจไม่ได้ผลิตในมาเลเซียตามสิทธิ์ที่ควรได้รับการยกเว้นภาษี เพราะรถยนต์ยื่นขอสิทธิ์ยกเว้นภาษีถิ่นกำเนิดในอาเซียนต้องใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนเกินร้อยละ 40 ของการผลิตรถทั้งคัน


นายชัยยุทธ  กล่าวว่า  กรมศุลกากรจึงประสานไปยังมาเลเซียและจีน เพื่อสอบถามความถูกต้องทางเอกสารและต้องเดินทางไปมาเลเซียเพื่อตรวจสอบว่าโรงงานที่มาเลเซียผลิตรถยนต์ดังกล่าวจริง การสำแดงสินค้ารถเมล์เอ็นจีวีดังกล่าว 100 คัน จ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มเสร็จแล้ว หากตรวจพบว่ามีความผิดจริงต้องดำเนินคดีหลีกเลี่ยงภาษี โดยต้องจ่ายอากรนำเข้าร้อยละ 40 มูลค่ารถ  1.2 ล้านบาทต่อคัน เมื่อรวมรถ 100 คัน เป็นเงิน 120 ล้านบาท และยังต้องจ่ายค่าปรับ 2 เท่าจากคดีการหลีกเลี่ยงภาษี กรมศุลกากรคาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือนจะทำการตรวจสอบเสร็จ แต่หากภาคเอกชนผู้นำเข้าต้องการนำรถเมล์ออกไปวิ่งบริการตามสัญญากับ ขสมก.สามารถทำได้ แต่ต้องวางแบงก์การันตีตามมูลค่ารถรวมกันทั้งหมดมากกว่าพันล้านบาท

หลังจากบริษัทเอกชนผู้นำเข้าระบุว่าสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังอ้างเหตุมีข้อสงสัยในเรื่องเอกสาร From D ออกให้โดยกระทรวงอุตสาหกรรมของประเทศมาเลเซีย  ดังนั้น เพื่อรอการตรวจสอบให้ชัดเจน และเพื่อให้บริษัทซุปเปอร์ซาร่า ออกเอกสารรับรองว่ารถโดยสารดังกล่าวนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ทำให้บริษัทเอกชนผู้นำเข้าเสียหาย เนื่องจากต้องจ่ายค่าจอดรถให้ท่าเรือแหลมฉบังเพิ่มวันละ 300,000 บาท  โดยกังวลว่าจะนำรถเมล์ออกไปวิ่งให้บริการไม่ทันตามกำหนดวันที่ 22 ธันวาคม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

สำหรับหนังสือ From D  เป็นหนังสือรับรองที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากร  Common Effective Preferential Tariff (CEPT) เป็นการลดอัตราภาษีศุลกากรร้อยละ 0 สำหรับสินค้านำเข้าระหว่างกันของประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area :  AFTA) เพื่อใช้หนังสือดังกล่าวสำหรับยืนยันว่าสินค้าของผู้ประกอบการมีแหล่งกำเนิดสินค้า โดยผลิตมาจากวัตถุดิบภายในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมด เพื่อขอรับการลดภาษี ณ ศุลกากรปลายทาง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว

กะเหรี่ยงโจมตีฐานทหาร

ชาวเมียนมาหนีตายข้ามมาฝั่งไทย หลังทหารกะเหรี่ยงโจมตีฐานทหารเมียนมา

สถานการณ์แนวชายแดนไทย-เมียนมา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังทหารกะเหรี่ยงจำนวนมากบุกโจมตีฐานทหารเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่ระมาด จ.ตาก ล่าสุดยังปะทะกันอย่างดุเดือด ทำให้ชาวเมียนมา 233 คน ต้องอพยพหนีตายข้ามแม่น้ำเมยมาฝั่งไทย