พปชร.เตรียมเปิดนโยบายใหม่แกะกล่องหลังวันเลือกตั้งชัดเจน

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.-พปชร.เตรียมเปิดตัวนโยบายใหม่แกะกล่องหลังวันเลือกตั้งชัดเจน “อุตตม” ยัน 4 รัฐมนตรีลาออกแน่ มั่นใจ พปชร.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เผยแจง กกต.แล้วเรื่องเงินระดมทุน ยันไม่มีหน่วยงานรัฐบริจาค


นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ (18 ม.ค.) เป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง ซึ่งได้มีการคัดสรรผู้ที่แสดงเจตจำนงที่จะลงแข่งขันในระบบเขตทั่วประเทศ 350 ซึ่งพรรคได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมจะยื่นรายชื่อของผู้ที่ผ่านการคัดสรร ขณะนี้เหลืออยู่อีก 1-2 ขั้นตอน สัปดาห์หน้าจะเรียบร้อยทั้งหมด โดยมีบุคลากรที่พร้อมเสนอตัวรับใช้ชาติเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้หารือเรื่องการจัดทำนโยบายของพรรคเรียบร้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีการเปิดนโยบายของพรรคในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมาก่อน พรรคจะมีการเปิดตัวชุดนโยบายของพรรคทันที

“พรรคมีความพร้อมในทุกเรื่อง ขณะนี้รอให้มีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งก่อน ส่วนเรื่องการดำรงตำแหน่งในรัฐบาลของ 4 รัฐมนตรีนั้นยังเป็นไปตามที่เคยพูดไว้ตั้งแต่วันเปิดตัวพรรคว่า หลักการคือเราทั้ง 4 คน จะทำงานที่รับผิดชอบในตำแหน่งรัฐมนตรี จะทำให้ถึงจุดที่เรารับผิดชอบ ไม่เกิดความเสียหาย เราจะออกมาทำงานพรรคในเวลาที่เหมาะสม ขอความกรุณารออีกสักนิด เป็นไปตามนั้นแน่นอน ส่วนจะเป็นการลาออกก่อนวันที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง หรือการประกาศวันเลือกตั้ง เมื่อถึงเวลา จะเอาหนังสือลาออกไปยื่นกับนายกรัฐมนตรี ท่านทราบแล้วในหลักการ และท่านไม่ได้ทักท้วงอะไร ปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบของเรา ท่านก็วางใจ ไว้ใจว่าเราจะตัดสินใจในเวลาที่สมควร” นายอุตตม กล่าว


ส่วนเรื่องการระดมทุนของพรรค นายอุตตม กล่าวว่า ในวันนี้ (18 ม.ค.) ได้ดำเนินการยื่นเรื่อง และเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ ไม่ได้ล่าช้า เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มีนาคม พรรคมีผลจะกระทบอะไรหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า พรรคไม่มีความกังวลอะไร เพราะได้มีการเตรียมความพร้อมเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง

“ประกาศเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น ก็มีความพร้อม ตอนนี้ต้องเอาเรื่องนโยบายและคนให้พร้อมเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง พรรคเดินหน้าลงพื้นที่ในลักษณะการรับฟังความคิดเห็น” นายอุตตม กล่าว

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใน 4 รัฐมนตรีที่ยังไม่ตัดสินใจทางการเมืองจะมีผลต่อความนิมยมของพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยืนยันตามหลักการเดิม เมื่อถึงเวลาเหมาะสม และการประชุมในวันนี้ (18 ม.ค.) ยังไม่มีการเสนอชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ต้องผ่านกระบวนการของคณะกรรมการของพรรคอีกครั้ง


“เมื่อถึงเวลาที่ต้องยื่น มีแน่นอน ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะเรียนเชิญใครอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมกันตัดสินใจ ทั้งนี้พยายามคัดสรรผู้ที่จะมาทำงานให้กับประเทศดีที่สุด เราพลังประชารัฐเชื่อว่าเรามีศักยภาพที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวถึงนโยบาย สปก.ของพรรค ว่า เราจะจัดการที่ดินทำกินให้เเหมาะสมกับนโยบายและสอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน และเราจะมีนโยบายแกะกล่องออกมาโดยไม่มีนโยบายที่พรรคไหนทำมาก่อน ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มช่องทางสื่อสารกับประชาชน ผ่าน PODCAST นั้น ในส่วนของพรรคก็จะใช้ช่องทางสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งโซเชียล ทั้งตัวเป็น ๆ เราทำทุกรูปแบบ และเป็นพรรคที่รวมตัวกันตั้งไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค ที่ผ่านมาเรามีกระแสความนิยมต่อเนื่องได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงการส่งเรื่องการระดมทุนของพรรคให้ กกต.ว่า เอกสารของพรรคที่จะยื่นไปที่ กกต. เรื่องงานระดมทุน เป็นไปตามวันที่ กกต.กำหนด คือ วันที่ 18 มกราคม 2562 ผู้ที่แสดงเจตจำนงสนับสนุนพรรคมาทั้งหมดเป็นเงิน 622,347,950 บาท เราจะบันทึกเข้าบัญชีระดมทุนจำนวน 90 ล้านบาท 24 รายการ

“เพราะ กกต.ได้ออกระเบียบระดมทุนให้วันระดมทุนคือวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ดังนั้นเอกสารเช็คที่ลงวันที่หลังวันที่ 19 ธันวาคม 2561 เราจะเอาเข้าเงินบริจาคของพรรค โดยจะนำเข้าบัญชีในวันวันจันทร์และอังคารที่จะถึงนี้ ส่วนการตรวจสอบได้มีการตรวจสอบที่เข้มข้น มีการคืนเช็คในบางส่วนที่สัดส่วนถือหุ้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” นายณัฏฐพล กล่าว

เมื่อถามว่า จะปรับเงินระดมทุนมาเป็นเงินบริจาคด้วยหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า เนื่องจากระเบียบการระดมทุนระดมได้วันที่ 19 ธันวาคม 2561 ก็ได้ทำเอกสารถาม กกต. ขอขยายเวลาในการระดมทุน จากวันที่ 19-31 ธันวาคม 2561 เพราะขั้นตอนในบัญชี อยากจะให้เงินที่ได้ลงบัญชีหลังวันที่ 19 ธันวาคม สามารถเคลียร์เงินเข้ามาได้ แต่ กกต. ตอบมาว่าขอให้ยื่นระดมทุนวันที่ 19 ธันวาคม และขอยื่นเอกสารวันระดมทุนคือวันที่ 18 มกราคม ทั้งนี้จะมีการติดประกาศที่หน้าพรรคให้ทราบรายชื่อผู้บริจาคทั้งหมด ส่วนผู้ที่จะบริจาคเข้ามาเพิ่ม ทุก ๆ วันเราจะติดรายชื่อผู้บริจาคให้ได้ทราบ และยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในส่วนนโยบายของพรรคที่มีความพร้อม มีความหลากหลาย โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาแล้ว ซึ่งจะเชิญสื่อมวลชนมารับฟัง ทั้งตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่องการช่วยเหลือสวัสดิการของประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันจะดูแลสังคมให้มีการลดความเหลื่อมล้ำด้านต่าง ๆ ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ (18 ม.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค เข้าร่วมประชุมด้วย แต่เดินทางกลับไปก่อน ส่วนนายอุตตม และนายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลาราชการทั้งวัน สามารถมาทำงานที่พรรคได้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]