พปชร.เตรียมเปิดนโยบายใหม่แกะกล่องหลังวันเลือกตั้งชัดเจน

กรุงเทพฯ 18 ม.ค.-พปชร.เตรียมเปิดตัวนโยบายใหม่แกะกล่องหลังวันเลือกตั้งชัดเจน “อุตตม” ยัน 4 รัฐมนตรีลาออกแน่ มั่นใจ พปชร.เป็นแกนนำตั้งรัฐบาล เผยแจง กกต.แล้วเรื่องเงินระดมทุน ยันไม่มีหน่วยงานรัฐบริจาค


นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐ วันนี้ (18 ม.ค.) เป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง ซึ่งได้มีการคัดสรรผู้ที่แสดงเจตจำนงที่จะลงแข่งขันในระบบเขตทั่วประเทศ 350 ซึ่งพรรคได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และพร้อมจะยื่นรายชื่อของผู้ที่ผ่านการคัดสรร ขณะนี้เหลืออยู่อีก 1-2 ขั้นตอน สัปดาห์หน้าจะเรียบร้อยทั้งหมด โดยมีบุคลากรที่พร้อมเสนอตัวรับใช้ชาติเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้หารือเรื่องการจัดทำนโยบายของพรรคเรียบร้อยเช่นเดียวกัน ซึ่งจะมีการเปิดนโยบายของพรรคในเร็ว ๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ขอให้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งออกมาก่อน พรรคจะมีการเปิดตัวชุดนโยบายของพรรคทันที

“พรรคมีความพร้อมในทุกเรื่อง ขณะนี้รอให้มีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งก่อน ส่วนเรื่องการดำรงตำแหน่งในรัฐบาลของ 4 รัฐมนตรีนั้นยังเป็นไปตามที่เคยพูดไว้ตั้งแต่วันเปิดตัวพรรคว่า หลักการคือเราทั้ง 4 คน จะทำงานที่รับผิดชอบในตำแหน่งรัฐมนตรี จะทำให้ถึงจุดที่เรารับผิดชอบ ไม่เกิดความเสียหาย เราจะออกมาทำงานพรรคในเวลาที่เหมาะสม ขอความกรุณารออีกสักนิด เป็นไปตามนั้นแน่นอน ส่วนจะเป็นการลาออกก่อนวันที่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง หรือการประกาศวันเลือกตั้ง เมื่อถึงเวลา จะเอาหนังสือลาออกไปยื่นกับนายกรัฐมนตรี ท่านทราบแล้วในหลักการ และท่านไม่ได้ทักท้วงอะไร ปล่อยให้เป็นความรับผิดชอบของเรา ท่านก็วางใจ ไว้ใจว่าเราจะตัดสินใจในเวลาที่สมควร” นายอุตตม กล่าว


ส่วนเรื่องการระดมทุนของพรรค นายอุตตม กล่าวว่า ในวันนี้ (18 ม.ค.) ได้ดำเนินการยื่นเรื่อง และเป็นไปตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ ไม่ได้ล่าช้า เมื่อถามว่า หากการเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มีนาคม พรรคมีผลจะกระทบอะไรหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า พรรคไม่มีความกังวลอะไร เพราะได้มีการเตรียมความพร้อมเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง

“ประกาศเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น ก็มีความพร้อม ตอนนี้ต้องเอาเรื่องนโยบายและคนให้พร้อมเพื่อเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง พรรคเดินหน้าลงพื้นที่ในลักษณะการรับฟังความคิดเห็น” นายอุตตม กล่าว

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ใน 4 รัฐมนตรีที่ยังไม่ตัดสินใจทางการเมืองจะมีผลต่อความนิมยมของพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ยืนยันตามหลักการเดิม เมื่อถึงเวลาเหมาะสม และการประชุมในวันนี้ (18 ม.ค.) ยังไม่มีการเสนอชื่อผู้เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ ต้องผ่านกระบวนการของคณะกรรมการของพรรคอีกครั้ง


“เมื่อถึงเวลาที่ต้องยื่น มีแน่นอน ตอนนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าจะเรียนเชิญใครอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องของพรรคร่วมกันตัดสินใจ ทั้งนี้พยายามคัดสรรผู้ที่จะมาทำงานให้กับประเทศดีที่สุด เราพลังประชารัฐเชื่อว่าเรามีศักยภาพที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล” นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม กล่าวถึงนโยบาย สปก.ของพรรค ว่า เราจะจัดการที่ดินทำกินให้เเหมาะสมกับนโยบายและสอดคล้องกับความเป็นจริงในปัจจุบัน และเราจะมีนโยบายแกะกล่องออกมาโดยไม่มีนโยบายที่พรรคไหนทำมาก่อน ส่วนกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่มช่องทางสื่อสารกับประชาชน ผ่าน PODCAST นั้น ในส่วนของพรรคก็จะใช้ช่องทางสื่อสารทุกรูปแบบ ทั้งโซเชียล ทั้งตัวเป็น ๆ เราทำทุกรูปแบบ และเป็นพรรคที่รวมตัวกันตั้งไม่มีใครเป็นเจ้าของพรรค ที่ผ่านมาเรามีกระแสความนิยมต่อเนื่องได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าเกินความคาดหมายแล้ว

ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงการส่งเรื่องการระดมทุนของพรรคให้ กกต.ว่า เอกสารของพรรคที่จะยื่นไปที่ กกต. เรื่องงานระดมทุน เป็นไปตามวันที่ กกต.กำหนด คือ วันที่ 18 มกราคม 2562 ผู้ที่แสดงเจตจำนงสนับสนุนพรรคมาทั้งหมดเป็นเงิน 622,347,950 บาท เราจะบันทึกเข้าบัญชีระดมทุนจำนวน 90 ล้านบาท 24 รายการ

“เพราะ กกต.ได้ออกระเบียบระดมทุนให้วันระดมทุนคือวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ดังนั้นเอกสารเช็คที่ลงวันที่หลังวันที่ 19 ธันวาคม 2561 เราจะเอาเข้าเงินบริจาคของพรรค โดยจะนำเข้าบัญชีในวันวันจันทร์และอังคารที่จะถึงนี้ ส่วนการตรวจสอบได้มีการตรวจสอบที่เข้มข้น มีการคืนเช็คในบางส่วนที่สัดส่วนถือหุ้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” นายณัฏฐพล กล่าว

เมื่อถามว่า จะปรับเงินระดมทุนมาเป็นเงินบริจาคด้วยหรือไม่ นายณัฏฐพล กล่าวว่า เนื่องจากระเบียบการระดมทุนระดมได้วันที่ 19 ธันวาคม 2561 ก็ได้ทำเอกสารถาม กกต. ขอขยายเวลาในการระดมทุน จากวันที่ 19-31 ธันวาคม 2561 เพราะขั้นตอนในบัญชี อยากจะให้เงินที่ได้ลงบัญชีหลังวันที่ 19 ธันวาคม สามารถเคลียร์เงินเข้ามาได้ แต่ กกต. ตอบมาว่าขอให้ยื่นระดมทุนวันที่ 19 ธันวาคม และขอยื่นเอกสารวันระดมทุนคือวันที่ 18 มกราคม ทั้งนี้จะมีการติดประกาศที่หน้าพรรคให้ทราบรายชื่อผู้บริจาคทั้งหมด ส่วนผู้ที่จะบริจาคเข้ามาเพิ่ม ทุก ๆ วันเราจะติดรายชื่อผู้บริจาคให้ได้ทราบ และยืนยันว่าไม่มีหน่วยงานรัฐเข้ามาสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ในส่วนนโยบายของพรรคที่มีความพร้อม มีความหลากหลาย โดยรายละเอียดทั้งหมดจะเปิดเผยเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาแล้ว ซึ่งจะเชิญสื่อมวลชนมารับฟัง ทั้งตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่องการช่วยเหลือสวัสดิการของประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันจะดูแลสังคมให้มีการลดความเหลื่อมล้ำด้านต่าง ๆ ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐในวันนี้ (18 ม.ค.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค เข้าร่วมประชุมด้วย แต่เดินทางกลับไปก่อน ส่วนนายอุตตม และนายกอบศักดิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลาราชการทั้งวัน สามารถมาทำงานที่พรรคได้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ ถึงอุบลฯ แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้ชาวบ้าน

อุบลราชธานี 20 มิ.ย.-นายกฯ ถึงอุบลราชธานี แม่ทัพภาค 2 รอรับ ชวนรับดอกไม้จากประชาชน ก่อนขึ้น ฮ.ไปฐานมรกต ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ขำสื่อรุมถาม “ไมค์เขกหัวนายกฯ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกองบิน 21 จ.อุบลราชธานี โดยมี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รอรับ และเดินทางต่อไปที่สนามกีฬานานาชาติ อบต.โดมประดิษฐ์ มีว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ อดีต รมว.มหาดไทย และ สส.พรรคเพื่อไทย มารอต้อนรับ น.ส.แพทองธาร ได้มอบสิ่งของให้แก่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง โดยชาวบ้านหลายคนนำดอกกุหลาบ และผ้าขาวม้า มามอบให้เป็นกำลังใจแก่นายกฯ ในระหว่างที่ประชาชนมอบดอกไม้ให้ นายกฯ ชวนแม่ทัพภาคที่ 2 มารับดอกไม้และถ่ายภาพร่วมกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการพูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้เคลียร์ใจแล้วหรือไม่ […]

พรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน

รัฐสภา 20 มิ.ย.-เลขาธิการสภาฯ แจงพรรคเสนอชื่อนายกฯ ได้ ต้องมี สส. 25 คน แม้จะมีชื่อในบัญชี ก็ไม่เป็นผล ว่าที่ร้องตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากต้องมีการเลือกนายกฯ ใหม่ ว่า บุคคลที่สามารถได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นบุคคลที่มีรายชื่อในบัญชีที่เสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง โดยพรรคที่สามารถเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกฯได้ จะต้องมี สส.จำนวน 5% ของสส. 500 คน คือมี สส. 25 คน ตามมาตรา 159 วรรค 1 ซึ่งในขณะนี้มี สส.ในสภาฯ จำนวน 495 คน 5% คือ 24.75 ซึ่งพรรคพลังประชารัฐขณะนี้มี สส.เหลือไม่ถึง 20 คน จึงไม่สามารถเสนอบุคคลในบัญชีรายชื่อคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ ได้ ตามมาตรา 159 […]

ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ยิงข้างห้องดับ 1 เจ็บ 1

ชุมพร 20 มิ.ย. – ทหารเรือเกษียณเลือดร้อน ฉุนข้างห้องติดเครื่องรถกระบะจอดแช่นาน เกิดมีปากเสียง คว้าปืนยิงสามีเข้าที่คอบาดเจ็บ ส่วนภรรยาโดนยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิต ตำรวจ สภ.เมืองชุมพร เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงกัน บริเวณห้องเช่า ริมถนนซอยสุขาภิบาล 17 – วัดเขาปุก ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวเช่าติดกัน 4 ห้อง บริเวณหน้าห้องซ้ายสุด มีรถกระบะสีดำจอดอยู่ พร้อมกองเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ น.ส.จิราวรรณ อายุ 54 ปี ถูกยิงเข้าที่ตาข้างขวา อาการสาหัส หน่วยกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนั้นยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน คือ นายสุรพจน์ อายุ 53 ปี ถูกยิงเข้าที่ไหปลาร้า ใกล้ลำคอด้านขวา แต่กระสุนถากไป ได้รับบาดเจ็บไม่มาก นายสุรพจน์ ให้ข้อมูลว่า คนก่อเหตุยิงเป็นเพื่อนบ้านห้องเช่าใกล้กัน ชอบตะโกนต่อว่าตนว่าติดเครื่องยนต์จอดแช่ไว้นาน ทำให้รำคาญ ซึ่งตนก็บอกไปว่า รถยนต์ตนต้องติดเครื่องวอร์มแช่ไว้ก่อนทุกครั้ง […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาค 2 สั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู จ.บุรีรัมย์

22 มิ.ย.- กองทัพภาคที่ 2 มีคำสั่งปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ 21 มิ.ย. 2568 เป็นต้นไป ตามคำสั่งกองทัพบก (เฉพาะ) ที่ 806/2568 เรื่องการควบคุม การเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังสุรนารี มีอำนาจการควบคุมการเปิด – ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสมในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณาภาพแห่งดินแดงของประเทศไทย การรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งให้เกิดความเหมาะสมต่อการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน และความมั่นคงของประเทศไทย กองทัพภาคที่ 2 จึงอนุมัติให้ปิดจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป. – สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เผยไทยมีฝนเพิ่ม เตือนตะวันออก รับมือฝนถล่ม

กทม. 22 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง เตือนภาคตะวันออก เตรียมรับมือฝนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย

โผ ครม. แพทองธาร 2 หลังภูมิใจไทยถอนตัว

21 มิ.ย. – สะพัดโผ ครม. แพทองธาร ชุดใหม่ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นั่ง มท.1 พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ หรือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่งกลาโหม ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน ส่งผลให้ ครม. ว่างลง 8 ตำแหน่ง โผการปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย มีชื่อของ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะไปนั่งเก้าอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล โดยก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ ยืนยันว่า พร้อมไปทำงานในทุกตำแหน่งที่นายกรัฐมนตรี มอบหมาย ส่วน รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 2) มีชื่อ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช และ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข จากพรรคประชาธิปัตย์ จะสลับมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย (มท. 3) ส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม […]

เลขาฯ เพื่อไทย ยัน นายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา

กทม. 21 มิ.ย.-เลขาฯ พรรคเพื่อไทย ยืนยันนายกฯ ไม่ลาออก-ยุบสภา หลังงบฯ 69 ผ่านวาระสาม ตามที่มีกระแสข่าว เดินหน้าทำงานแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ภาษีทรัมป์ และนโยบายต่างๆ ขออย่าให้การเมืองมาบดบังเป้าหมายสำคัญ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลฯ ว่า “จากกระแสข่าวลือที่ว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจตอบรับข้อเสนอจากพรรคการเมืองบางพรรค ด้วยการลาออกหรือยุบสภาหลังผ่านการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ในวาระที่สามนั้น ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ขอเรียนชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันกับพวกเราชัดเจนว่า จะเดินหน้าทำหน้าที่แก้ไขวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่ประเทศกำลังเผชิญอย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการตอบโต้ที่เข้มข้นขึ้น ทั้งในมิติการทูตและด้านความมั่นคง รวมถึงปัญหาวิกฤตภาษีทรัมป์ ที่รัฐบาลได้เร่งผลักดันการเจรจาอย่างจริงจัง และได้รับการตอบรับอย่างดีจากคู่เจรจา รัฐบาลยังมุ่งมั่นใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่จนครบวาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ในการผลักดันนโยบายที่วางไว้ให้เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม อาทิ -การเดินหน้านโยบายปราบปรามยาเสพติด-การปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น-มาตรการลดค่าครองชีพ ผ่านโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย-การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการพัฒนาโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่-การสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ (man-made destination) […]