แนะรัฐบาล-คสช.ต้องทำให้ประชาชนเป็นเจ้าของการปฏิรูป

S__1032299กรุงเทพฯ 3 ก.ย.-ประสารระบุกฎหมายและกลไกรัฐไม่พอสำหรับการปฏิรูปประเทศ เสนอรัฐบาล-คสช.ทำให้ประชาชนมีความรู้สึกร่วมและเป็นเจ้าของการปฎิรูป ชี้จะเป็นหลักประกันให้ฝ่ายการเมืองต้องสานต่อ


นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวระหว่าสงรับฟังการแถลงยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร(วปอ.) รุ่นที่ 58 ว่าขณะนี้ประเทศกำลังวางยุทธศาสตร์การปฏิรูป โดยวางรากฐาน 20 ปี และจะทำอย่างไรให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำได้ตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ว่า กฏหมายและกลไกภาครัฐมีกำลังไม่เพียงพอต่อภารกิจการปฏิรูป จึงควรต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นเจ้าของการปฏิรูปร่วมกัน โดยใช้เวลาราวปีครึ่งนี้วางเสาเข็มการปฏิรูปโดยประชาชน

“ควรนำผลงาน 37 วาระการปฏิรูปของสปช. ผลงาน 11 ด้านของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับใหม่ รวมทั้งนำแนวทางปฏิรูปของหน่วยงานอื่นๆ มาเป็นต้นทุนพื้นฐาน ทั้งนี้ การปฏิรูปประเทศเป็นกระแสลมแรง เป็นปรารถนาร่วมกันของประชาชนทั้งประเทศตั้งแต่ก่อนรัฐประหารสองปีก่อน สังคมไทยเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่คุณภาพใหม่ ที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยมีธรรมาภิบาลเป็นจิตวิญญาณพื้นฐาน พลังแห่งการตื่นรู้ของประชาชนทั่วประเทศ ให้พร้อมหนุนเนื่องการปฏิรูปให้ดำเนินต่อไป  ซึ่งเห็นได้จากคะแนน 16.7 ล้านคนที่ประชามติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ แต่หากภาคการเมืองยังใส่ใจในอำนาจ เงิน และการสร้างคะแนนนิยมมากกว่าจะสนใจการปฏิรูป การปฏิรูปก็ล้มเหลวได้” นายประสาร กล่าว


นายประสาร กล่าวว่า ขอเสนอรัฐบาลและคสช.เชิญชวนให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นเจ้าของการปฏิรูปร่วมกัน โดยใช้การปฏิรูปเชิงพื้นที่(Area Base Reform) เป็นฐาน ด้วยการจัดให้หารือร่วมกันตามขอบเขตของพื้นที่ในระดับ ชุมชน อำเภอ จังหวัดว่าแต่ละพื้นที่ต้องการเปลี่ยนแปลงอะไร จะทำอย่างไร ใครเป็นคนทำ ทำเสร็จเมื่อใด ซึ่งจะเป็นการต่อยอดการปฏิรูปที่สปช.และสปท.วางโครงสร้างหลักไว้แล้ว และจะนำไปสู่ภาคปฏิบัติ หากรัฐบาลและคสช.ทำให้การปฏิรูปเป็นภารกิจของประชาชนทุกคน จะเป็นการวางเสาเข็มการปฏิรูปที่แข็งแกร่งที่ฝ่ายการเมืองต้องเดินตาม ขณะเดียวกันจะเป็นหลักประกันว่าการปฏิรูปต้องดำเนินต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดี ได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว