นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละออง

ลำปาง 15 ม.ค.-นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหาฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ ทั้งระยะเร่งด่วน ให้มีมาตรการเพิ่มเติมภายใน 1-2 วันนี้ และหามาตรการแก้ปัญหาระยะยาว

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่พื้นที่ภาคเหนือตอนบน 1  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข เร่งแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก เพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้นภายใน 1-2 วันนี้ เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้กระทรวงอุตสาหกรรมดูแลโรงงานที่มีความเสี่ยง พร้อมขอให้เดินหน้ารณรงค์การปรับเปลี่ยนรถที่ใช้น้ำมันดีเซล มาใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 และให้จัดหาพื้นที่เติมน้ำมัน B20 ให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในที่ประชุม กระทรวงคมนาคมได้รายงานว่า ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. จะปรับเปลี่ยนมาใช้รถบัสประหยัดพลังงาน ที่ใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ที่ไม่สร้างมลพิษและประหยัดพลังงาน จำนวน 1,200 คัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการออกมาตรการแก้ไขปัญหาโดยระยะเร่งด่วนนั้น กรุงเทพมหานคร กระทรวงมหาดไทย และกองทัพ ได้ประชุมหารือกันและทำการฉีดละอองน้ำ รวมถึงมีการทำฝนเทียมควบคู่กันไปด้วย คาดว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายลงได้โดยเร็ว ส่วนมาตรการระยะยาวเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ จะมีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางแก้ปัญหาและจะแถลงให้ทราบอีกครั้ง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงถึงประเด็นความแตกต่างระหว่างฝุ่นละอองขนาด PM 10 และ PM 2.5 ว่า PM 10 มีความละเอียดเป็นฝุ่นละอองที่ขนาดใหญ่กว่า PM 2.5 มักเกิดจากการเผาป่าและมลภาวะปกติ ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้มีการรณรงค์เพื่อแก้ไขปัญหามาแล้วและวางมาตรการระยะยาว ส่วน PM 2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กและอันตรายมากกว่า สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบหายใจและเข้าสู่กระแสเลือดได้ มีสาเหตุที่เกิดจากท่อไอเสีย โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้น้ำมันดีเซลเป็นหลัก.-สำนักข่าวไทย