ลำปาง 15 ม.ค.- นายกฯ ชี้ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขีดเส้นตายกดดันรัฐบาลไม่ได้ ยืนยัน การเลือกตั้งเกิดขึ้นตามกรอบเวลากฎหมาย ความพร้อมกำหนดวันอยู่ที่ กกต.จะพิจารณา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าว ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (15 ม.ค.) ถึงกรณีที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งนัดชุมนุมใหญ่ วันที่ 19 มกราคม นี้ ขีดเส้นตายให้รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจน ว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีสิทธิ์อะไรมาขีดเส้นตายรัฐบาล กำหนดการทุกอย่างอยู่ในโรดแมปเดิม ภายในกรอบ 150 วัน คือ วันที่ 9 พฤษภาคม 2562 แต่การเลือกตั้งจะจัดขึ้นก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่า วันเลือกตั้งจะต้องระบุชัดเจนว่าวันใด เพราะวันเลือกตั้งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้กำหนด
“ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ และสามารถเดินหน้าเรื่องอื่นๆ ต่อไปได้ และทุกอย่างต้องเดินไปพร้อมกัน จะต้องให้เวลารัฐบาลในการเตรียมการก่อน เนื่องจากจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และกิจกรรมที่ประชาชนทั้งประเทศจะต้องจัดถวาย ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เพราะนี่คือสถาบันหลักของชาติ ทุกคนจึงต้องช่วยกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงวลีของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ซึ่งกล่าวทุกครั้งที่ขึ้นปราศัยหาเสียงว่า “ อยู่กับเรากระเป๋าตุง อยู่กับลุงกระเป๋าแฟบ” ว่า หากต้องการรู้ข้อเท็จจริง ให้ไปถามคุณหญิงสุดารัตน์เอง ว่าจะทำได้จริงหรือไม่ได้ ตนก็ไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคมองว่า การประชุม ครม.สัญจร เป็นการหาเสียงนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า การประชุมและลงพื้นที่ทุกครั้ง มาเพื่อรับฟังปัญหาและพบประชาชน ที่ผ่านมาได้รับเรื่องร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหาที่ดินทำกิน หนี้นอกระบบ ที่หลายคนยังไม่เข้าใจ ก็ได้สั่งการให้ไปทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมย้ำว่า การเดินทางมาทุกครั้ง ไม่ใช่มาแค่ 2 วันแล้วกลับแต่ส่วนราชการทุกส่วนได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปติดตามงานของประชาชนในแต่ละพื้นที่
“การลงพื้นที่พบปะกับประชาชน เหมือนกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งได้ทำ แต่รัฐบาลนี้ไม่ได้ไปพบเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น ใครจะไปหรือใครจะมา ก็เป็นเรื่องของเขา ได้สอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดว่า มีการเกณฑ์มาต้อนรับ และมานั่งฟังผมหรือไม่ และได้รับคำยืนยันว่า ทุกคนมาด้วยความเต็มใจ ไม่ได้เกณฑ์หรือไปจ้างวานใครมา เพราะฉะนั้น สิ่งต่างๆ ทั้งหมด ผมจะเป็นคนพิจารณาว่า จะทำเรื่องใดก่อนหรือหลัง หากเรื่องใดที่ทำแล้วยังอยู่ในกฏหมาย ก็จะเร่งดำเนินการให้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ คือการสร้างความเข้าใจให้กับทุกคน”นายกรัฐมนตรี กล่าว ..- สำนักข่าวไทย