กรมศุลฯ มั่นใจปีนี้เก็บรายได้เกินแสนล้านบาท

กรุงเทพฯ 15 ม.ค. – กรมศุลกากรระบุเศรษฐกิจไทยดี มั่นใจแนวโน้มการจัดเก็บภาษีอากรต่าง ๆ ปีงบฯ 62 จะทำได้เกิน 100,000  ล้านบาท


นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรประเมินภาพรวมการจัดเก็บภาษีอากรสินค้านำเข้า-ส่งออก รวมทั้งจัดเก็บภาษีและรายได้อื่น ๆ แทนหน่วยงานอื่น ปีงบประมาณ 2562 จะสามารถทำได้เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนแรกปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.-ธ.ค.61) จัดเก็บรายได้แล้ว 26,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายคิดเป็นร้อยละ 8.9 เนื่องจากมีการนำเข้ารถยนต์ที่เดิมผู้นำเข้ามาจอดไว้และถึงกำหนดต้องนำเข้า ส่วนแนวโน้มการจัดเก็บรายได้ในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2562 จะยังคงดีต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจจะโตน้อยลง คาดโตร้อยละ 4 ซึ่งอยู่ช่วงการประเมินของกรมศุลกากรอยู่แล้ว 

อธิบดีกรมศุลกากร ยังเปิดงานสัมมนา “Customs 2019 : The Next to Beyond” โดยเชิญ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ซึ่งได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) การให้บริการรับชำระค่าภาษีอากรผ่านระบบ Bill Payment เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2561 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา  ภาพรวมปัจจุบัน มีผู้ใช้บริการมาชำระเงินภาษีอากรต่าง ๆ ที่เคาน์เตอร์ของกรมศุลกากร ในรูปแบบเงินสดคิดเป็นร้อยละ  2 และรูปแบบแคชเชียร์เช็คคิดเป็นร้อยละ 45 ของจำนวนผู้มาเสียอากรทั้งหมด หากหันมาใช้บริการผ่านระบบ Bill Payment จะช่วยลดต้นทุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้รับบริการและผู้ประกอบการ รวมทั้งเพื่อเป็นการสนับสนุนให้กรมศุลกากรสามารถรับชำระค่าภาษีอากรและรายได้ อื่น ๆ ผ่านระบบ e-Payment ได้ 100 % พร้อมเข้าสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดได้อย่างแท้จริง


 นอกจากนี้ กรมศุลกากรยังให้ความสำคัญกับระบบการปล่อยสินค้าล่วงหน้า (Pre-arrival Processing System) มาใช้ในการผ่านพิธีการศุลกากรขาเข้า ซึ่งจะสามารถลดระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจปล่อยสินค้า รวมถึงเป็นผลดีต่อการประเมินการวัดระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจปล่อยสินค้า (TRS) และการจัดอันดับ Ease of doing business ของประเทศไทย และยังมีแผนต่อเนื่องในการจัดทาแนวทางขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกทางการค้าในยุคดิจิทัล โดยจะทำการพัฒนาระบบรับชาระเงินผ่าน e-Payment และการเชื่อมโยงข้อมูลทางการค้าจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน  ให้หน่วยงานภาครัฐสามารถบูรณาการและใช้ข้อมูลร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้ประกอบการให้ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง