แกะรอยตามล่าลูกเขยโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ

อุตรดิตถ์ 14 ม.ค.-ตำรวจเร่งแกะรอยตามล่าลูกเขยสุดโหดฆ่ายกครัว 5 ศพ ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ หลังพบรถเก๋งถูกจอดทิ้งในโรงแรมที่พิษณุโลก ก่อนยืมรถจักรยานยนต์แม่บ้านไปขึ้นรถ 2 คันที่จอดรอ พาหนีต่อ


นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดล่าสุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบต่อเนื่อง หลังพบรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน กล4561 พิษณุโลก ที่นายธีรพล ปิ่นอมร จอดทิ้งไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองพิษณุโลก หลังก่อเหตุบุกยิงนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยา เสียชีวิตพร้อมพ่อตา แม่ยาย และเครือญาติฝ่ายหญิง รวม 5 ศพ ในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ และขับรถหนี ก่อนใช้อุบายยืมรถจักรยานยนต์แม่บ้านโรงแรมขี่หนีไป แต่กล้องวงจรปิดริมถนนพิษณุโลก-นครสวรรค์ จับภาพได้ว่านายธีรพลขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณดังกล่าว ก่อนทิ้งรถจักรยานต์ และขึ้นรถกระบะไปกับพรรคพวกที่มารับ

คดีนี้ศาลอุตรดิตถ์ออกหมายจับนายธีรพลแล้ว ในข้อหาฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น ขณะที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ สภ.พญาแมน เพื่อติดตามคดี พร้อมสั่งกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบปลอกกระสุนปืนว่ามาจากปืนกระบอกใด และเคยใช้ก่อเหตุในคดีอื่นหรือไม่ รวมถึงกำชับตำรวจทำงานอย่างรอบคอบ รัดกุม ส่วนการตรวจสอบประวัตินายธีรพล พบว่ามีส่วนพัวพันกับยาเสพติดและคดีฉ้อโกง ซึ่งขณะนี้ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกิจสีเทาของนายธีรพลด้วย รวมไปถึงเส้นทางการเงินอย่างละเอียดด้วย  


ส่วนกรณีญาติผู้เสียชีวิตระแวงว่านายธีรพลจะส่งพรรคพวกมาทำร้ายครอบครัวซ้ำ เพราะทราบว่ามีอิทธิพล ลูกน้องเยอะ และเคยข่มขู่ว่าจะฆ่าให้หมดทั้งโคตร พร้อมชี้เป้าบ้านไว้ 7 หลัง ตำรวจ สภ.พญาแมน จึงส่งกำลังเข้าดูแลชุมชน และประสาน อส. รวมถึง อปพร. มาสอดส่องดูแล โดยที่ญาติผู้เสียชีวิตมีการทำพิธีจุดธูป ตั้งจิตอธิษฐานขอให้ผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติ และคืนนี้ได้มีการบำเพ็ญกุศลศพเป็นคืนแรกด้วย

สำหรับคดีสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยนายธีรพลได้มาตามหาภรรยาที่บ้านแม่ยาย เพื่อง้อขอคืนดี แต่ไม่เจอ จึงบันดาลโทสะ ใช้ปืนขนาด 9 มม. ยิงขมับแม่ยายและญาติ จากนั้นขับไปบ้านพ่อตา ซึ่งอยู่ห่างไป 5 กิโลเมตร ซึ่งที่บ้านของพ่อตา กล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะนายธีรพลยืนเคลียร์ปัญหาอยู่กับภรรยา โดยมีพ่อตาอยู่ในเหตุการณ์ จากนั้นนายธีรพลชักปืนไล่ยิงพ่อตา โดยมีภรรยาวิ่งมาเข้าห้าม ทำให้ถูกยิงร่วงกองกับพื้น และตามไปไล่ยิงญาติภรรยา ก่อนเดินกลับมายิงภรรยาและพ่อตาที่นอนกอดกันอยู่ซ้ำอีกหลายนัด และขับรถหลบหนีไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ