คลังพอใจผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ พ้นขีดยากจนนับล้านคน

กรุงเทพฯ13  ม.ค. – ขุนคลังพอใจผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ อบรมพัฒนาอาชีพ พ้นขีดยากจนนับล้านคน  เตรียมขยายอบรมต่อเนื่องอีก 6 เดือน  คาดใช้เงินประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมดึงแบงก์ร่วมโครงการหนุนคนชรารายได้สูงร่วมสละเบี้ยยังชีพ 


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังจากฝึกอบรมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในกลุ่มใต้เส้นความยากจนสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี  2 ล้านราย สัดส่วนร้อยละ 50 มีรายได้เพิ่มพ้นจากเส้นความยากจน หรือประมาณ 1 ล้านคน จึงเตรียมขยายต่อเนื่อง เพราะหมดเขตไปแล้วช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อขยายออกไปประมาณ 6 เดือน ถึงเดือนมิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นช่วงรัฐบาลใหม่เข้าบริหารประเทศ 

ทั้งนี้ เพื่ออบรมต่อเนื่องในการเสริมความรู้ให้กับชาวบ้าน ใครยังไม่เข้ามาอบรมให้สมัครเข้ามา ส่วนผู้อบรมไปแล้วอบรมต่อเนื่องไปอีก โดยได้รับเงินค่าอบรมเท่าเดิม 100 และ 200 บาทต่อรายต่อเดือน คาดใช้เงินประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อเดือน นอกเหนือจากนั้นให้รอรัฐบาลใหม่พิจารณาสานต่ออย่างไรบ้าง เพราะผู้มีรายได้น้อยได้ประโยชน์ เนื่องจากชาวบ้านมีรายได้พ้น 30,000 บาทต่อปี แต่ไม่ถึง 100,000 บาทต่อปี เพื่อช่วยเหลือรายย่อย ขณะที่ผู้ผ่านการอบรมพัฒนาอาชีพมีรายได้พ้น 100,000 บาทต่อปี สำรวจรอบแรกประมาณ 100,000 คน ดังนั้น จึงต้องเช็คตัวเลขให้ชัดเจนอีกครั้ง 


นายอภิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดูแลผู้สูงอายุ 7-8 ล้านคน มาลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ 3 ล้านคน  ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2562 กระทรวงการคลังจะเดินหน้าผลักดันการสละสิทธิ์เบี้ยยังชีพคนชรา เพื่อให้คนชรารายได้สูงยอมสละสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพ เพื่อนำไปช่วยเหลือคนชรามีรายได้น้อย เพราะยอดเงิน 600 บาทต่อเดือนอาจไม่เพียงพอ เพื่อกองทุนชราภาพมียอดเงินสูงขึ้นจากการสละสิทธิ์อาจทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับเงินเพิ่มจาก 600 บาท เป็น 1,000 บาทต่อเดือน จึงได้ปรับแผนใหม่ด้วยการประสานกับสมาคมธนาคารไทยจัดแคมเปญประชาสัมพันธ์ผ่านสาขาธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง โฆษณาผ่านตู้เอทีเอ็ม เพื่อช่วยกันชักชวนผู้มีรายได้สูงสละสิทธิ์เริ่มเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2562 ในช่วง 2 เดือนนี้ กระทรวงการคลังพร้อมแจกเหรียญพระคลังให้กับผู้สละสิทธิ์ และหากจำเป็นต้องใช้เงินกลับมาแจ้งรับเงินได้ ยอมรับว่าเมื่อได้รับรู้ข้อมูลรายย่อยจะรู้ว่าต้องช่วยเหลือใครได้ตรงจุด โดยไม่ต้องหว่านทั้งหมด เพราะมีงบประมาณจำกัด และยังทำให้ชาวบ้านรู้จักใช้บัตรซื้อของโดยไม่ต้องใช้เงินสด  เมื่อเริ่มช่วยตัวเองได้ ชาวบ้านก็พอใจ 

ทั้งนี้ ยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้ขับเคลื่อนและฟื้นฟูประเทศให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวตามศักยภาพได้ดีประเทศหนึ่งในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ จึงมั่นใจปี 2562 จีดีพีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4 สอดคล้องกับหลายหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ ยอมรับว่าการส่งออกจะเป็นตัวฉุดหลักสำคัญ  อีกทั้งต่อไปจีดีพีควรไม่ให้ต่ำกว่าร้อยละ 4 ทุกปีให้เป็นจุดต่ำสุด แม้จะเกิดปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ดีนัก แต่เศรษฐกิจไทยังทัดทานอยู่ได้ไม่เป็นปัญหาวิกฤติเหมือนในอดีต รัฐบาลยังใช้การลงทุนภาครัฐเป็นปัจจัยหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่บรรยากาศการเลือกตั้ง นายวิษณุได้หารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่า เลือกตั้งในช่วงเดือนมีนาคม 2562 แต่นักลงทุนอาจมีความไม่แน่นอนและกังวลบ้าง 

ส่วนกรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายเพิ่ม เพื่อลดความร้อนแรงบ้างเป็นการทำหน้าที่ด้านนโยบายการเงิน ซึ่งอาจมีข้อมูลอีกด้านหนึ่ง แต่บอกกับสาธารณะไม่ได้ จึงต้องยอมรับซึ่งกันและกัน ในการทำหน้าที่ของคลังและ ธปท.  


รัฐมนตรีคลังยอมรับว่าแม้รัฐบาลจะเดินหน้าใช้งบประมาณลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม แต่ยังยึดมั่นวินัยการเงิน การคลัง ค่อนข้างสูง หลายประเทศจึงชมเชยประเทศไทยที่สร้างฐานะการคลังดีที่สุดในตลาดประเทศเกิดใหม่ ถือว่าเป็นระดับน่าพอใจในการปฏิรูปโครงสร้างภาษี ได้มุ่งปรับภาษีที่ดินฯ ภาษีออนไลน์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บ แต่ไม่ได้เพิ่มอัตราสูงขึ้นให้เป็นภาระกับประชาชน และรายย่อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย