คุม”รณชิตร์”วัย52ดำเนินคดีกทม.หลังพาเด็กหญิงวัย14ปีไปเชียงใหม่

กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- ตำรวจเร่งสอบปากคำหนุ่มใหญ่วัย 52 ปี พาเด็กหญิงวัย 14 ปีไปเชียงใหม่นาน 15 วัน หลังกองปราบยกทีมตามล่าได้เมื่อวานและส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ 


นายรณชิตร์  บำรุงจิต อายุ 52 ปี   ถูกตำรวจสน.พลับพลาไชย 1  ควบคุมตัว จาก สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ มา ดำเนินคดีที่ สน.พลับพลาไชย 1 ในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร หลังเมื่อวันที่ 27 ธ.ค.61 นายรณชิต ได้รับตัวเด็กหญิงวัย14 ปี ออกจากโรงเรียนที่กรุงเทพฯ ก่อนพาซ้อนท้ายรถจักยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ 125 ทะเบียน ลนร 266 กรุงเทพ ออกจากกรุงเทพฯ ไปพักค้างแรมคืนแรกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนท่องเที่ยวแบบออกทริป ไปจ.อ่างทอง ,ชัยนาท,นครสวรรค์,กำแพงเพชร,ตาก,ลำปาง เรื่อยมาจนถึง จ. เชียงใหม่ โดยทุกสถานที่ได้แวะเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆต่างๆทุกจังหวัด และมาถึง จ.เชียงใหม่วันที่ 8 ม.ค.62 รวมระยะทาง 800กิโลเมตร ก่อนเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งกลางเมืองเชียงใหม่ จนถูกตำรวจกองปราบเข้าจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ ทางครอบครัวได้แจ้งความ คนหาย ไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการสอบสวน 

ขณะที่นายรณชัย เหล่าสุวรรณพงษ์ บิดาและนางสาวอนันตพร ศรีภุมมา มารดา  เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย1 หลังทราบข่าวการพบตัวลูกสาวที่จ.เชียงใหม่และสามารถจับกุมตัวนายรณชิตได้ 


นายรณชัย ยอมรับว่าดีใจที่เจอลูกสาวและรู้ว่าปลอดภัย ซึ่งตลอดระยะที่ลูกหายไป ครอบครัวร้องไห้ และเครียดมาก ที่ผ่านมาคาดไว้เหมือนกันคนที่พาลูกสาวไปน่าจะเป็นนายรณชิตตั้งแต่แรก  เนื่องจากลูกสาวนายรณชิตเป็นเพื่อนเรียนห้องเดียวกับลูกสาวตน ทำให้2 ครอบครัวสนิทกัน เคยไปมาหาสู่ ไปเที่ยวต่างจังหวัด และเคยให้นายรณชิตสอนพิเศษลูกสาว พร้อมเคยให้ไปรับ-ส่งที่โรงเรียน แต่มีภรรยาของตนไปด้วยทุกครั้ง  ทั้งนี้ไม่เคยเห็นความผิดปกติเชิงชู้สาวระหว่างนายรณชิตกับลูกสาวมาก่อน ขณะเดียวกันยอมรับผิดว่าหนึ่งในสาเหตุที่อาจจะทำให้ลูกสาวออกจากบ้าน เป็นเพราะตนและภรรยาอาจจะเข้มงวดกับลูกเกินไป ซึ่งหากพบลูกจะกอดลูก ขอโทษ และให้สัญญาว่าจะฟังและพร้อมเข้าใจลูกให้มากขึ้น 

ด้านนางสาวอนันตพร มารดา ระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความไว้เนื้อใจมากเกินไป ยืนยันจะดำเนินคดีกับคนที่พาลูกสาวไปให้ถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการอะไรเพียงอยากให้ลูกกลับมาหาครอบครัวและพูดคุยกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง