ธารน้ำใจช่วยเหลือ ยายเพิ่ม-หลานชายพิการ ส่งถึงมือท่ามกลางรอยยิ้ม

นครศรีธรรมราช 9 ม.ค. – หลายพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากอิทธิพลพายุ “ปาบึก” ขณะที่ยายวัย 81 ปีและหลานพิการ ที่ประสบภัยบ้านเรือนพังเสียหายทั้งหลัง ที่นครศรีธรรมราช ล่าสุดได้รับความช่วยเหลือผ่านช่อง 9 แล้ว





หลังสำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวนางเพิ่ม แก้วแก้ว อายุ 81 ปี และนายเฉลิมพล สุดรักษ์ อายุ 21 ปี หลานผู้พิการตั้งแต่กำเนิด ซึ่งประสบชะตากรรมพายุปาบึกพัดถล่มบ้านจนพังเสียหาย ในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลปากนคร อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จนเหลือเพียงเสื้อผ้าติดตัวเพียงชุดเดียวและเงิน 125 บาท  ทำให้ประชาชนที่ได้รับชมข่าวต่างให้ความสนใจช่วยเหลือยายเพิ่มและหลาน ล่าสุดเช้าวันนี้ความช่วยเหลือได้ส่งตรงถึงนางเพิ่มและ หลานผู้พิการแล้ว ทั้งในส่วนของเงินผู้มีจิตศรัทธาที่บริจาคผ่านบัญชีธนาคาร และ เสื้อผ้าเครื่องนอนที่ส่งตรงผ่านช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 ก่อนมอบให้กับนางเพิ่ม ซึ่งวันนี้ (9 ม.ค.) นางเพิ่มและหลานชาย อยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่ หลังต้องใส่ชุดเดิมมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม พร้อมกล่าวขอบคุณธารน้ำใจจากประชาชนที่ร่วมกันช่วยบริจาคเงิน ซึ่งได้เบิกเงินมาเช่าห้องพักชั่วคราว ระหว่างที่รอภาครัฐช่วยสร้างบ้านหลังใหม่


สำหรับนางเพิ่ม แก้วแก้ว อาศัยกับหลานชายผู้พิการรวมทั้งหมด 3 คน มีอาชีพรับจ้างเกี่ยวเบ็ดและแกะหอย รายได้เพียงวันละ 50 บาท โดยรายได้ในจำนวนนี้แต่ละวันต้องใช้เลี้ยงปากท้องถึง 3 ชีวิต ทั้งนี้ ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือนางเพิ่ม ผ่านบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกหัวถนน (นครศรีธรรมราช) เลขที่ 750-233761-2 ชื่อบัญชี “นางเพิ่ม แก้วแก้ว เพื่อ ด.ช.เฉลิมพล สุดรักษ์”

ปล่อยคาราวานนำนักศึกษาช่วยผู้ประสบภัย



ส่วนที่วิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช มีการเปิดศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน หรือ Fix it center พร้อมปล่อยคาราวานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุปลาบึกในจังหวัด โดยระดมนักศึกษา 11 แห่งในจังหวัดออกซ่อมอุปกรณ์การไฟฟ้า เครื่องจักรกลทางการเกษตร และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ในพิธียังมีการยกย่อง “ลุงปรีชา จันทร์แก้ว” วัย 69 ปี ที่เป็นจิตอาสาของสละชีวิตออกไปลุยน้ำช่วยเหลือชาวบ้านแต่จมน้ำเสียชีวิต

ชมรมวิทยุสมัครเล่นกระบี่ส่งมอบธารน้ำใจให้ผู้ประสบภัย จ.กระบี่




ส่วนที่ตลาดสดมหาราช เทศบาลเมืองกระบี่ ชมรมวิทยุสมัครเล่น “กลุ่ม AR รักษ์กระบี่” ตั้งโต๊ะรับบริจาคข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เสื้อผ้า และเงินสด เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุ “ปาบึก”  โดยจะรวบรวมสิ่งของใส่รถกระบะนำไปมอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอสิชล, ท่าศาลา, ปากพนัง, หัวไทร และเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม ซึ่งเมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ได้นำธารน้ำใจส่งไปกับรถกระบะออฟโรด 2 คัน จำนวน 40 ชุด ลงพื้นที่ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยในอำเภอปากพนังแล้วจำนวนหนึ่ง .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ ออกประกาศฉบับที่ 7 เตือนไทยตอนบนอากาศแปรปรวน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งในภาคเหนือและอีสาน ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 23-25 ก.พ.68)