แรลลี่ดาการ์ 2019 บนเส้นทางหฤโหดกว่า 5,000 กิโลเมตร

เปรู 8 ม.ค. – เปิดฉาก..แรลลี่หฤโหดอันดับ 1 ของโลก “ดาการ์แรลลี่ 2019” นาสเซอร์ อัล อัตติย่าห์ คว้าแชมป์สเตจแรก เบียดแชมป์เก่าคาร์ลอส แซงซ์


ดาการ์แรลลี่ หรือ เดอะ ดาการ์ ในอดีตรู้จักกันในชื่อ ปารีส-ดาการ์ เป็นการแข่งขันรถแรลลี่หฤโหด อันดับ 1 ของโลก จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ.1978



เส้นทางการแข่งขันส่วนใหญ่เริ่มต้นจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีเส้นทางผ่านภูมิประเทศทุรกันดารหลากหลายชนิดทั้งทะเลทราย บ่อโคลน ทุ่งหญ้า ทุ่งหิน หุบผาสูงชัน เนินทรายในทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ไปสิ้นสุดที่กรุงดาการ์ เมืองหลวงของประเทศเซเนกัล แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสในประเทศมอริทาเนียในช่วงปลายปี 2007 โดยกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ร่วมแข่งขัน จนต้องงดการแข่งขันในช่วงต้นปี 2008 และย้ายการแข่งขันไปจัดในทวีปอเมริกาใต้ ที่อาร์เจนตินาและชิลี ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 จนถึงปัจจุบัน แต่ที่ต้องจับตาสำหรับดาการ์ แรลลี่ คือเกือบทุกปีจะต้องมีนักแข่งที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ

ปัจจุบันการแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 ประเภท โดยประเภทที่น่าสนใจ คือ รถจักรยานยนต์, รถยนต์ (น้ำหนักต่ำกว่า 3,500 กิโลกรัม) และรถบรรทุก (น้ำหนักมากกว่า 3,500 กิโลกรัม) เส้นทางการแข่งขันในแต่ละวัน มีตั้งแต่ระยะทางสั้นๆ จนถึงเฉลี่ย 800-900 กิโลเมตร

ในอดีตเคยมีนักแข่งชาวไทย 2 คน ที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้จนจบ ได้แก่ พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ในปี 1992-1995 และมานะ พรศิริเชิด ในปี 2009 ทั้ง 2 คนสังกัดทีมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส

การชิงชัยครั้งที่ 41 ของศึกแรลลี่ระดับตำนาน รายการดาการ์ แรลลี่ 2019 ระหว่างวันที่ 6-17 มกราคม แข่งขันทั้งสิ้น 10 สเตจ รวมระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นปีที่ 11 ติดต่อกันที่จัดแข่งขันกันที่ทวีปอเมริกาใต้ ในปีนี้มีผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 334 คัน โดยรถจักรยานยนต์ มีจำนวนมากที่สุด 137 คัน โดยการแข่งขันสเตจแรก ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการเมื่อวานที่ผ่านมา ใช้เส้นทางแข่งขันในประเทศเปรู ออกสตาร์ทจาก ลิม่า ไปเข้าเส้นชัยที่ ปิสโก้ ระยะทางทั้งสิ้น 331 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 84 กิโลเมตร และการเดินทาง 247 กิโลเมตร

สำหรับผลการแข่งขันในวันแรก นาสเซอร์ อัล-อัตติย่าห์ (NO.301) อดีตแชมป์ 2 สมัยชาวกาตาร์ สังกัดโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง เซาท์ แอฟริกา ทำผลงานยอดเยี่ยม ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 1 นาที 41 วินาที เร็วกว่าแชมป์เก่า คาร์ลอส แซงซ์ นักขับสเปน (NO.300) ที่ย้ายมาร่วมงานกับ เอ็กซ์-เหรด มินิ จอห์นดับเบิ้ลยูซี ทีม 1 นาที 59 วินาที

ขณะที่ โฆอัน บาร์เรด้า บอร์ต (NO.5) นักบิดสแปนิช สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ฮอนด้า ทีม 2019 บิดทำเวลาขึ้นเป็นผู้นำในประเภทรถจักรยานยนต์ ด้วยเวลารวม 57 นาที 36 วินาที ตามด้วย ปาโบล ควินตานิลลา (NO.6) และ ริคกี้ บราเบค ที่ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ถึง 1 นาที 34 วินาที และ 2 นาที 52 วินาที ตามลำดับ

ด้าน เอดูอาร์ด นิโคลาเยฟ, เยฟกินี ยาคอฟเลฟ และ วลาดิเมียร์ ไรบาคอฟ สังกัดคามาซ-มาสเตอร์ เจ้าของแชมป์ประเภทรถบรรทุก ซิ่งทำเวลาขึ้นรั้งจ่าฝูงหลังผ่านสเตจแรกด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 9 นาที 5 วินาที

สำหรับการแข่งขันในสเจตที่ 2 จะใช้เส้นทางชิงชัยระหว่าง ปิสโก้ ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทางทั้งสิ้น 553 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 342 กิโลเมตร และการเดินทาง 211 กิโลเมตร

ไปเช็กเส้นทาง ของดาการ์แรลลี่ 2019 ทั้งหมด 10 สเตจ เริ่มสเตจแรก เมื่อวานนี้จากเมืองลิม่า ไปเข้าเส้นชัยที่ ปิสโก้ ระยะทาง 331 กิโลเมตร, สเตจที่ 2 จากปิสโก้ ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทาง 553 กิโลเมตร, สเตจที่ 3 จากซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ถึง อเรกุยป้า รวมระยะทาง 798 กิโลเมตร, สเตจที่ 4 จากอเรกุยป้า ถึง เทคน่า ระยะทาง 511 กิโลเมตร, สเตจที่ 5 จากเทคน่า กลับมาเข้าเส้นชัยที่อเรกุยป้า ระยะทาง 776 กิโลเมตร ก่อนจะพักการแข่งขัน 1 วัน และกลับมาแข่งต่อในสเตจที่ 6 จากอเรกุยป้า ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทางยาวที่สุด 838 กิโลเมตร, สเตจที่ 7 วิ่งในซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทาง 387 กิโลเมตร, สเตจ 8 จากซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ถึง ปิสโก้ ระยะทาง 575 กิโลเมตร, สเตจ 9 วิ่งในปิสโก้ ระยะทาง 409 กิโลเมตร และสเตจสุดท้าย จากปิสโก้ ถึง ลิม่า 359 กิโลเมตร ระยะทางรวม 5,537 กิโลเมตร โดยแข่งในประเทศเปรู ทั้ง 10 สเตจ และเป็นพื้นที่ทะเลทราย ระยะ 3,000 กิโลเมตร คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์

ที่ผ่านมามีนักแข่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลายราย โดยเฉพาะประเภทมอเตอร์ไซค์ จึงได้ชื่อว่าเป็นแรลลี่ที่โหดที่สุดในโลก…หวังว่าในปีนี้จะไม่มีข่าวเศร้าเกิดขึ้น .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

“นายกฯ หนู” ล้อมวงเพื่อนทหารกินร้านโปรดหน้าวัดไตรมิตรฯ

กทม 10 ก.ย.- “นายกฯ หนู” ควงภรรยา กินร้านโปรด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หน้าวัดไตรมิตรฯ ล้อมวงเพื่อนทหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภรรยา เดินทางไปรับประทานร้านโปรด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หน้าวัดไตรมิตรฯ โดยมี พล.ท.สุเมธ พรหมตรุษ ผบ.ศตก. ว่าที่ ผบ.ศรภ. ที่ต้องรับผิดชอบการดูแล รปภ. นายกฯ ตามระเบียบ และพลตรี สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองแม่ทัพภาค1 ว่าที่ แม่ทัพน้อย1 ที่สนิทสนมกันมานาน และ “นายกฯ ด๊อยซ์” อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ร่วมโต๊ะด้วย -สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

นายกฯ บอกไม่รู้ “สันติ” ขาดคุณสมบัตินั่งรัฐมนตรี

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-นายกฯ บอกไม่รู้ “สันติ” ขาดคุณสมบัตินั่งรัฐมนตรี ส่วน “วรภัค” ถูก ป.ป.ช.กล่าวหา ขอรอฟัง เลขาฯ ครม. ยันถ้าเป็นไม่ได้ ก็เป็นไม่ได้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี นั้น นายอนุทิน ถึงกับร้องหึ้ย ตนยังไม่ทราบ ท่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะแจ้งมาหากใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ และชัดเจนว่าหากใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็จะนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องกังวล เพราะนี่คือเหตุผลที่เสนอรายชื่อไปเกิน 36 รายชื่อ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่มีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา จะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า อยู่ที่การตรวจสอบ เราส่งรายชื่อทุกคนไปให้ เลขาฯ ครม.ตรวจสอบ เราต้องเชื่อการตรวจสอบ จะไปด่วนสรุปก่อนหรือไปเชื่อหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

“พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลประชุม GBC สมัยพิเศษ

เกาะกง 10 ก.ย. – “พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลหารือ GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง มุ่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนี้จะมีการดำเนินการถอนอาวุธหนักภายใน 4 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการไอโอที ร่วมสังเกตการณ์ด้วย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 1 สัปดาห์ ต้องแล้วเสร็จใน 1 เดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” จ่อเข้าเยี่ยม “ทักษิณ” ยกเป็นวีรบุรุษ ปชต.

มหาดไทย 10 ก.ย.- “ภูมิธรรม” เผยเตรียมไปเยี่ยม “ทักษิณ” มองไม่ได้ทำผิดมาตั้งแต่ต้น เป็นเพราะอำนาจจัดการจนเป็นรัฐบาลนอกระบบ รับเห็นภาพนายใหญ่ในชุดนักโทษ แล้วสะเทือนใจ ยกเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย คนหนึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกจำคุกในเรือนจำคลองเปรม ซึ่งจากนี้จะมีกรอบเวลาให้เข้าเยี่ยมได้ มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าใครจะเข้าไปเยี่ยมบ้าง ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ความรู้สึกส่วนตัว ตนต้องไปเยี่ยมนายทักษิณแน่นอน เพราะตนไม่ได้รู้สึกว่าท่านได้ทำอะไรผิดมาตั้งแต่ต้นทาง ตลอดจนถึงปัจจุบัน ถูกกระทำโดยอำนาจการจัดการ ในการเข้าสู่การเป็นรัฐบาลนอกระบบ เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งขึ้นมา รอวันพิสูจน์ ซึ่งในสายตาตนนายทักษิณเป็นนักสู้คนหนึ่ง และเมื่อวานเห็นภาพนายทักษิณ สวมชุดคอกลมสีฟ้า และดูเหมือนจะกล้อนผมด้วยก็สะเทือนใจ ตนคิดว่าท่านพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าจะหนีไปเลยก็ไปได้ เพราะอยู่นอกประเทศอยู่แล้ว และก็อยู่เมืองนอกไม่ได้ลำบาก ซึ่งการที่ตัดสินใจกลับมา ถือว่าเป็นคนที่รับผิดชอบต่อตัวท่านเอง และประชาชนที่เคารพนับถือท่าน ในสายตาตนนายทักษิณเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยคนหนึ่ง เมื่อถามว่า เรื่องนายทักษิณจะกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะการที่นายทักษิณยอมรับโทษนั้นอาจจะมีทั้งกระแสเห็นใจและตีกลับหรือชื่นชมว่าได้ทำตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นความรู้สึกต่างๆของผู้คน จะรู้สึกอย่างไรก็เป็นไปตามความรู้สึกของคนเหล่านั้น แต่ตนเชื่อว่าคนที่เห็นใจและเข้าใจมีเยอะอยู่ และเรื่องพรรคเพื่อไทยไม่ต้องกังวล เราก็จะอยู่ […]

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]