เปรู 8 ม.ค. – เปิดฉาก..แรลลี่หฤโหดอันดับ 1 ของโลก “ดาการ์แรลลี่ 2019” นาสเซอร์ อัล อัตติย่าห์ คว้าแชมป์สเตจแรก เบียดแชมป์เก่าคาร์ลอส แซงซ์
ดาการ์แรลลี่ หรือ เดอะ ดาการ์ ในอดีตรู้จักกันในชื่อ ปารีส-ดาการ์ เป็นการแข่งขันรถแรลลี่หฤโหด อันดับ 1 ของโลก จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ.1978
เส้นทางการแข่งขันส่วนใหญ่เริ่มต้นจากปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีเส้นทางผ่านภูมิประเทศทุรกันดารหลากหลายชนิดทั้งทะเลทราย บ่อโคลน ทุ่งหญ้า ทุ่งหิน หุบผาสูงชัน เนินทรายในทวีปยุโรปและทวีปแอฟริกา ไปสิ้นสุดที่กรุงดาการ์ เมืองหลวงของประเทศเซเนกัล แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารนักท่องเที่ยวชาวฝรั่งเศสในประเทศมอริทาเนียในช่วงปลายปี 2007 โดยกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์ ทำให้เกิดความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้ร่วมแข่งขัน จนต้องงดการแข่งขันในช่วงต้นปี 2008 และย้ายการแข่งขันไปจัดในทวีปอเมริกาใต้ ที่อาร์เจนตินาและชิลี ตั้งแต่ปี ค.ศ.2009 จนถึงปัจจุบัน แต่ที่ต้องจับตาสำหรับดาการ์ แรลลี่ คือเกือบทุกปีจะต้องมีนักแข่งที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ปัจจุบันการแข่งขันแบ่งออกเป็น 6 ประเภท โดยประเภทที่น่าสนใจ คือ รถจักรยานยนต์, รถยนต์ (น้ำหนักต่ำกว่า 3,500 กิโลกรัม) และรถบรรทุก (น้ำหนักมากกว่า 3,500 กิโลกรัม) เส้นทางการแข่งขันในแต่ละวัน มีตั้งแต่ระยะทางสั้นๆ จนถึงเฉลี่ย 800-900 กิโลเมตร
ในอดีตเคยมีนักแข่งชาวไทย 2 คน ที่เข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้จนจบ ได้แก่ พรสวรรค์ ศิริวัฒนกุล ในปี 1992-1995 และมานะ พรศิริเชิด ในปี 2009 ทั้ง 2 คนสังกัดทีมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส
การชิงชัยครั้งที่ 41 ของศึกแรลลี่ระดับตำนาน รายการดาการ์ แรลลี่ 2019 ระหว่างวันที่ 6-17 มกราคม แข่งขันทั้งสิ้น 10 สเตจ รวมระยะทางกว่า 5,000 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นปีที่ 11 ติดต่อกันที่จัดแข่งขันกันที่ทวีปอเมริกาใต้ ในปีนี้มีผู้เข้าแข่งขันทั้งสิ้น 334 คัน โดยรถจักรยานยนต์ มีจำนวนมากที่สุด 137 คัน โดยการแข่งขันสเตจแรก ได้เปิดฉากอย่างเป็นทางการเมื่อวานที่ผ่านมา ใช้เส้นทางแข่งขันในประเทศเปรู ออกสตาร์ทจาก ลิม่า ไปเข้าเส้นชัยที่ ปิสโก้ ระยะทางทั้งสิ้น 331 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 84 กิโลเมตร และการเดินทาง 247 กิโลเมตร
สำหรับผลการแข่งขันในวันแรก นาสเซอร์ อัล-อัตติย่าห์ (NO.301) อดีตแชมป์ 2 สมัยชาวกาตาร์ สังกัดโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง เซาท์ แอฟริกา ทำผลงานยอดเยี่ยม ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 1 นาที 41 วินาที เร็วกว่าแชมป์เก่า คาร์ลอส แซงซ์ นักขับสเปน (NO.300) ที่ย้ายมาร่วมงานกับ เอ็กซ์-เหรด มินิ จอห์นดับเบิ้ลยูซี ทีม 1 นาที 59 วินาที
ขณะที่ โฆอัน บาร์เรด้า บอร์ต (NO.5) นักบิดสแปนิช สังกัดมอนสเตอร์ เอเนอร์จี้ ฮอนด้า ทีม 2019 บิดทำเวลาขึ้นเป็นผู้นำในประเภทรถจักรยานยนต์ ด้วยเวลารวม 57 นาที 36 วินาที ตามด้วย ปาโบล ควินตานิลลา (NO.6) และ ริคกี้ บราเบค ที่ทำเวลาเข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 ถึง 1 นาที 34 วินาที และ 2 นาที 52 วินาที ตามลำดับ
ด้าน เอดูอาร์ด นิโคลาเยฟ, เยฟกินี ยาคอฟเลฟ และ วลาดิเมียร์ ไรบาคอฟ สังกัดคามาซ-มาสเตอร์ เจ้าของแชมป์ประเภทรถบรรทุก ซิ่งทำเวลาขึ้นรั้งจ่าฝูงหลังผ่านสเตจแรกด้วยเวลารวม 1 ชั่วโมง 9 นาที 5 วินาที
สำหรับการแข่งขันในสเจตที่ 2 จะใช้เส้นทางชิงชัยระหว่าง ปิสโก้ ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทางทั้งสิ้น 553 กิโลเมตร เป็นช่วงทดสอบพิเศษ 342 กิโลเมตร และการเดินทาง 211 กิโลเมตร
ไปเช็กเส้นทาง ของดาการ์แรลลี่ 2019 ทั้งหมด 10 สเตจ เริ่มสเตจแรก เมื่อวานนี้จากเมืองลิม่า ไปเข้าเส้นชัยที่ ปิสโก้ ระยะทาง 331 กิโลเมตร, สเตจที่ 2 จากปิสโก้ ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทาง 553 กิโลเมตร, สเตจที่ 3 จากซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ถึง อเรกุยป้า รวมระยะทาง 798 กิโลเมตร, สเตจที่ 4 จากอเรกุยป้า ถึง เทคน่า ระยะทาง 511 กิโลเมตร, สเตจที่ 5 จากเทคน่า กลับมาเข้าเส้นชัยที่อเรกุยป้า ระยะทาง 776 กิโลเมตร ก่อนจะพักการแข่งขัน 1 วัน และกลับมาแข่งต่อในสเตจที่ 6 จากอเรกุยป้า ถึง ซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทางยาวที่สุด 838 กิโลเมตร, สเตจที่ 7 วิ่งในซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ระยะทาง 387 กิโลเมตร, สเตจ 8 จากซาน ฆวน เดอ มาร์โคน่า ถึง ปิสโก้ ระยะทาง 575 กิโลเมตร, สเตจ 9 วิ่งในปิสโก้ ระยะทาง 409 กิโลเมตร และสเตจสุดท้าย จากปิสโก้ ถึง ลิม่า 359 กิโลเมตร ระยะทางรวม 5,537 กิโลเมตร โดยแข่งในประเทศเปรู ทั้ง 10 สเตจ และเป็นพื้นที่ทะเลทราย ระยะ 3,000 กิโลเมตร คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์
ที่ผ่านมามีนักแข่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลายราย โดยเฉพาะประเภทมอเตอร์ไซค์ จึงได้ชื่อว่าเป็นแรลลี่ที่โหดที่สุดในโลก…หวังว่าในปีนี้จะไม่มีข่าวเศร้าเกิดขึ้น .- สำนักข่าวไทย