ชลบุรี 7 ม.ค.-เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช พร้อมกำลังประจำเรือ 141 นาย เดินทางจากเกาหลี เข้าเทียบท่าประเทศไทย ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ
พลเรือเอกลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานพิธีต้อนรับเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือฟริเกตสมรรถนะสูงที่ต่อจากสาธารณรัฐเกาหลี เดินทางกลับมายังประเทศไทยแล่นเข้าเทียบท่าประเทศไทยครั้งแรก ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พร้อมกับคล้องพวงมาลัย ให้กับนาวาเอก สมิทนัท คุณวัฒน์ ผู้บังคับการเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช คนแรก ที่นำเรือหลวงและกำลังประจำเรือ 141 นาย กลับมายังประเทศไทยโดยปลอดภัย กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ โปรดกระหม่อม พระราชทานชื่อเรือลำนี้ว่า เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช อันเป็นพระนามของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งมีความหมายของภูมิพล หมายถึง “พลังแห่งแผ่นดิน” อดุลยเดช หมายถึง “อำนาจที่ไม่อาจเทียบได้”ครั้งนี้ โดยเรือฟริเกตลำนี้เป็นเรือฟริเกตสมรรถนะสูงเทียบเท่าชั้นเรือพิฆาต ที่ได้ออกแบบให้ตรงกับความต้องการของกองทัพเรือ ตามแนวทางหายุทโธปกรณ์หลัก ภายใต้ยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พุทธศักราช 2551– 2560 แบบเรือจึงได้รับการพัฒนามาจากแบบเรือพิฆาต ชั้น Kwanggaeto Class Destroyer (KDX-I) และสร้างโดยใช้มาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ และกองทัพเรือเกาหลีใต้ จึงถือได้ว่าเป็นเรือฟริเกตที่ทันสมัยและเป็นเรือที่มีคุณค่าทางยุทธการสูง
วันที่ 7 สิงหาคม 2556 กองทัพเรือลงนามกับบริษัท Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering CO., LTD. (DSME) จำกัด สาธารณรัฐเกาหลี สร้างเรือฟริเกตที่มีโอกาสอยู่รอดสูงในสภาพแวดล้อมของการสู้รบและการปนเปื้อนทางนิวเคลียร์เคมี ชีวะ ทนทะเลได้ถึงสภาวะทะเลระดับ 6 ขึ้นไป พร้อมระบบอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีระวางขับน้ำสูงสุด 3700 ตัน ความเร็วสูงสุดต่อเนื่อง 30 น็อต ระยะปฏิบัติการ 4,๐๐๐ ไมล์ทะเล กำลังพล 141 นาย วงเงิน 14,600 ล้านบาท ออกแบบเรือโดยใช้ Stealth Technology ปฏิบัติการรบได้ 3 มิติ เรือจะเข้าประจำการที่กองเรือฟริเกตที่ 1 กองเรือยุทธการ และจะได้ขอพระราชทานขอพระมหากรุณาธิคุณให้มีพิธีขึ้นระวางเรือ และเจิมเรือ ขึ้นอีกครั้ง ในห้วงระยะเวลาที่เหมาะสมต่อไป.-สำนักข่าวไทย